รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ออกมากล่าวหาจีนว่าละเมิดมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติโดยการไม่เนรเทศแรงงานเกาหลีเหนือกลับประเทศภายในกำหนดเส้นตายวันที่ 22 ธ.ค. ซึ่งเป็นเหตุให้สหรัฐฯ ต้องประกาศขึ้นบัญชีดำองค์กร 2 แห่งที่พัวพันกับการส่งออกแรงงานโสมแดง
มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปี 2017 ซึ่งจีนให้การสนับสนุน กำหนดให้ทุกประเทศทั่วโลกเนรเทศแรงงานเกาหลีเหนือภายในวันที่ 22 ธ.ค. ปี 2019 เพื่อยับยั้งไม่ให้คนเหล่านี้ส่งเม็ดเงินต่างประเทศกลับไปสนับสนุนโครงการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเปียงยาง
สหรัฐฯ ประเมินว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือน่าจะทำเงินได้ปีละไม่ต่ำกว่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยอาศัยพลเมืองเกือบ 100,000 คนที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ในจำนวนนี้รวมถึงแรงงานในจีน 50,000 คน และในรัสเซียอีก 30,000 คน
“หลายประเทศได้ขจัดแรงงานเหล่านั้นออกไปแล้ว” เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน “แต่เราทราบว่ามีอยู่ 1 ประเทศที่มีแรงงานเกาหลีเหนืออยู่มากที่สุด แต่ไม่ทำอะไรเลย และด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องคว่ำบาตร”
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยืนยันว่า เขากำลังหมายถึง “จีน”
สถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยังไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้
สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเกาหลีเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ Korea Namgang Trading Corporation ซึ่งมีฐานในเปียงยาง และ Beijing Sukbakso ซึ่งตั้งอยู่ในจีน โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนในการส่งชาวโสมแดงออกไปค้าแรงงานในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมติคว่ำบาตรยูเอ็น
ทั้งนี้ รัฐบาลทุกประเทศต้องส่งรายงานมิดเทอมไปยังคณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในสังกัดคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อต้นปีที่แล้ว เพื่อให้เป็นไปตามมติในปี 2017 และจะต้องยื่นรายงานฉบับสมบูรณ์ในช่วงปลายเดือน มี.ค. ว่าได้ส่งแรงงานเกาหลีเหนือกลับประเทศไปแล้วกี่ราย
รัสเซียระบุในรายงานมิดเทอมว่าได้ส่งแรงงานโสมแดงกลับบ้านไปแล้วราว 2 ใน 3 จากทั้งหมด 30,000 คนในปี 2018 ขณะที่จีนอ้างว่าส่งกลับไปแล้ว “กว่าครึ่ง” แต่ไม่ระบุตัวเลขที่ชัดเจน
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า วอชิงตันยังคงหวังว่าเกาหลีเหนือจะสานต่อการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ
สัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือได้แจ้งให้สถานทูตทุกประเทศในกรุงเปียงยางทราบว่า รี ซอนกวอน (Ri Son Gwon) นายทหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่พรรคแรงงานเกาหลี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่
รัฐบาลโสมแดงออกมาย้ำอีกครั้งวานนี้ (22) ว่าไม่มีข้อผูกพันที่จะต้องระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธอีกต่อไป เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นฝ่ายเพิกเฉยต่อกำหนดเส้นตายปลายปี 2019 ที่ผู้นำ คิม จองอึน ขีดไว้สำหรับการรื้อฟื้นเจรจา และยังใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ “ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม” กับเกาหลีเหนือ