รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซียกล่าวเตือนสติพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ (20 ม.ค.) ว่าอาจจะบริหารประเทศได้แค่สมัยเดียว หากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและเลิกทะเลาะกันเอง
มหาเธร์ รับหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มฝ่ายค้านที่เรียกตัวเองว่า ‘ปากาตัน ฮาราปัน’ หรือพันธมิตรแห่งความหวัง คว้าชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2018 โดยยอมจับมือกับอดีตนักการเมืองคู่อริหลายคนเพื่อโค่นอำนาจกลุ่ม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ที่ผูกขาดอำนาจปกครองมาเลเซียมานานถึง 61 ปี
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าพรรครัฐบาลผสมของ มหาเธร์ พ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมมาแล้วถึง 5 ครั้ง รวมถึงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และผลโพลล่าสุดยังพบว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลตอนนี้เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
“เราแพ้เลือกตั้งซ่อม 5 ครั้ง แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจ” มหาเธร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่เกาะลังกาวีซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย
“ผมเตือนพวกเขาแล้วว่า ในระบอบประชาธิปไตยคุณจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากประชาชน แต่พวกเขากลับทะเลาะกันเองและแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย ถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมแบบนี้ พวกเขาจะไม่มีทางชนะอีก” มหาเธร์ กล่าว
รัฐบาลมหาเธร์ซึ่งประกอบด้วย 4 พรรคการเมืองก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วยคำมั่นสัญญาปฏิรูปประเทศ บวกกับขณะนั้นชาวมาเลเซียต่างไม่พอใจข่าวการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะตัวอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพัวพันการยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกไปจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) และกำลังถูกดำเนินคดีอาญาอยู่ในตอนนี้
หลังจากบริหารประเทศมาเกือบ 2 ปี เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่ารัฐบาลมหาเธร์ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ว่าจะปฏิรูปวิธีการบริหาร และแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนอย่างรวดเร็ว รวมถึงสัญญาที่ว่าจะปกป้องสิทธิของชาวมาเลย์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น มหาเธร์ ยังไม่ให้ความชัดเจนว่าเมื่อไหร่จะยอมส่งต่อเก้าอี้นายกฯ ให้แก่ อันวาร์ อิบราฮิม หุ้นส่วนทางการเมือง ตามที่ได้สัญญาไว้
มหาเธร์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะส่งไม้ต่อให้แก่ อันวาร์ หลังบริหารประเทศไปได้ 2 ปี แต่หลายฝ่ายเริ่มไม่มั่นใจว่าจะเป็นไปตามนั้น เนื่องจากนายกฯ ผู้มากบารมีออกมาเปรยว่าจำเป็นต้องขอเวลาทำงานเพิ่มเพื่อนำพามาเลเซียให้หลุดพ้นจากวิกฤตต่างๆ เสียก่อน
ล่าสุด ผู้นำเสือเหลืองวัย 94 ปี กล่าวย้ำในวันนี้ (20) ว่า ตนจะหลีกทางให้ อันวาร์ หลังผ่านพ้นเดือน พ.ย. ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพการประชุมซัมมิตความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) และก่อนที่รัฐบาลผสมจะหมดวาระ 5 ปีในปี 2023
กระนั้นก็ดี มหาเธร์ ยังคงปฏิเสธที่จะให้วันเวลาที่แน่นอน
“เมื่อถึงเวลาที่ผมรู้สึกว่าได้ทำทุกอย่างจนสุดความสามารถแล้ว ผมก็จะก้าวลงจากตรงนี้” เขากล่าว พร้อมย้ำว่า อันวาร์ ต้องได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
มหาเธร์ โมฮาหมัด เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดระหว่างปี 1981-2003 ก่อนจะเกษียณตัวเองจากแวดวงการเมือง และกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีผู้มีอายุมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2018 ในวัย 92 ปี
มหาเธร์ ยืนยันวันนี้ (20) ว่ารัฐบาลมาเลเซียจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้อินเดียกรณีเลิกซื้อน้ำมันปาล์มจากแดนเสือเหลือง และจะมองหาวิธีการต่างๆ เพื่อคลี่คลายปัญหานี้