เอเอฟพี - อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านในวันศุกร์(17ม.ค.) ระบุพวกผู้ประท้วงในประเทศ แสดงความไม่พอใจกรณีเตหะรานสอยเครื่องบินโดยสารสายการบินยูเครนร่วงโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนชาวอิหร่าน และกล่าวหาพวกศัตรูกำลังแสวงหาประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อจุดประสงค์โฆษณาชวนเชื่อ
ระหว่างนำเหล่านักแสวงบุญประกอบพิธีละหมาดรายสัปดาห์ในปรุงเตหะรานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี บอกว่าเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันที่ 8 มกราคม เป็นโศกนาฏกรรมอันเจ็บปวด แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้มันบดบังการเสียสละตัวของหนึ่งในผู้บัญชาการทหารที่ถูกเล่าขานมากที่สุดของอิหร่าน ซึ่งถูกโดรนสหรัฐฯลอบโจมตีสังหารในกรุงแบกแดด
คำเทศน์ของผู้นำสูงสุดรายนี้มีขึ้นหลังจากเดือนหนึ่งความบอบช้ำของอิหร่าน ซึ่งได้เห็นประเทศแห่งนี้ขยับเข้าใกล้ทำสงครามกับสหรัฐฯ ก่อเกิดความผิดพลาดยิงขีปนาวุธสอยเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเครนร่วงโดยไม่ตั้งใจ คร่าชีวิตยกลำ 176 ศพ
"เครื่องบินตกเป็นอุบัติเหตุอันแสนเจ็บปวด มันเผาทะลุหัวใจเรา" คอเมเนอีกล่าวท่ามกลางเสียงตะโกน "ไปตายซะอเมริกา" จากเหล่าประชาชนผู้มาร่วมประกอบพิธีละหมาดดังสอดรับขึ้นมาเป็นระยะๆ "แต่มีบางคนพยายามวาดภาพมันในแนวทางที่ให้ทุกคนลืมความทุกข์ทรมานและความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพลเอกกาเซ็ม โซไลมานี" ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ ซึ่งรับผิดชอบงานปฏิบัติการในต่างประเทศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
คอเมเนอี บอกว่าศัตรูของประเทศกำลังฉวยโอกาสจากโศกนาฏกรมเครื่องบินตก ในความพยายามบ่อนทำลายอิหร่าน "ศัตรูของเรามีความสุขกับเหตุเครื่องบินตกในขณะที่เราเศร้า พวกเขามีความสุขที่พบบางอย่างที่สามารถตั้งข้อสงสัยต่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านอย่างเป็นระบบ"
โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกกระตุ้นให้เกิดการประท้วงประปรายในกรุงเตหะรานและเมืองอื่นๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีผู้เข้าร่วมน้อยกว่าระลอกคลื่นของการชุมนุมต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมันเมื่อเดือนพฤศจิกายน
องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่ามีประชาชนอย่างน้อย 300 รายเสียชีวิตในปฏิบัติการปรามปราบของกองกำลังความมั่นคงหลังการประท้วงเหล่านั้น ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่าในวันศุกร์(17ม.ค.) ตำรวจปราบจลาจลกระจายกำลังครั้งใหญ่เข้ารักษาความสงบทั่วกรุงเตหะราน
คอเมเนอีกล่าวว่าพวกผู้ประท้วงไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนชาวอิหร่านทั้งหมด หลังจากก่อนหน้านี้มีประชาชนหลายแสนคนออกมาร่วมพิธีศพของโซไลมานี
นอกจากนี้คอเมเนอียังได้กล่าวยกย่องโซโลมานี ว่าภารกิจนอกเขตแดนอิหร่านของนายพลรายนี้เป็นการรับใช้ความมั่นคงของประเทศและเป็นบุุคคลซึ่งมีความแน่วแน่และอดทนในยามที่เผชิญหน้ากับอริศัตรู