เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันชี้จีนแผ่นดินใหญ่ควรยอมรับในความมีเอกราชของไทเป พร้อมเตือนว่าความพยายามรุกรานเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้จะนำมาซึ่ง “ความสูญเสียราคาแพง”
ไช่ รั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีไว้ได้เป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 8.2 ล้านเสียง โดยผลการเลือกตั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณท้าทายปักกิ่งที่พยายามโดดเดี่ยวไต้หวันทุกทาง
ผู้นำจีนแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการกำจัด ไช่ ให้พ้นทาง เนื่องจากเธอและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ยืนกรานปฏิเสธหลักคิดของปักกิ่งที่ถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนเดียว (One China)
จีนมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งซึ่งจะต้องถูกดึงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของแผ่นดินใหญ่ในอนาคต แม้จะต้องใช้กำลังทหารก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไต้หวันคิดแยกตัวเป็นเอกราช
ในการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศครั้งแรกหลังชนะศึกเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ (11) ไช่ ยืนยันว่าไต้หวันไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ เพราะทุกวันนี้ก็มีอำนาจปกครองตนเองอยู่แล้ว
“เราไม่จำเป็นต้องประกาศตัวเป็นรัฐเอกราช” เธอให้สัมภาษณ์กับบีบีซี “เราเป็นประเทศอิสระอยู่แล้ว และเราก็เรียกตัวเราเองว่า สาธารณรัฐจีน, ไต้หวัน”
ไต้หวันมีระบบการปกครองที่แยกเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่มานานถึง 70 ปี หลังจากกองทัพของพรรคชาตินิยม (ก๊กมินตั๋ง) ที่นำโดย เจียง ไค-เช็ก พ่ายแพ้ต่อพรรคคอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมืองเมื่อปี 1949 และนำกำลังถอยร่นไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวัน ก่อนจะจัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเอง
ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า มีชาวไต้หวันจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ปฏิเสธแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของจีน
“เรามีอัตลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นประเทศของเราเอง เรามีระบอบประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ มีเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองไม่ใช่น้อย เราสมควรได้รับความเคารพจากจีน” ไช่ กล่าว
ผู้นำหญิงไต้หวันยังฝากเตือนปักกิ่งว่าอย่าได้คิดใช้กำลังทหารข่มขู่ไต้หวัน
“การรุกรานไต้หวันจะทำให้จีนต้องเผชิญกับความสูญเสียราคาแพง” เธอกล่าว
รัฐบาลจีนออกมาตอบสนองอย่างโกรธเกรี้ยวต่อการขึ้นครองอำนาจสมัยที่ 2 ของ ไช่ พร้อมเตือนว่าอย่าได้คิดแยกไต้หวันเป็นเอกราช
“พวกที่แบ่งแยกประเทศจะต้องมีชื่อเสียงเหม็นโฉ่ไปอีก 10,000 ปี” หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในสัปดาห์นี้ ขณะที่สื่อปักกิ่งกล่าวหา ไช่ ว่าชนะเลือกตั้งด้วยการโกง แต่ก็ไม่แสดงหลักฐานยืนยัน
ล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค.) สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนนโยบายต่อไต้หวันหลังจากที่ ไช่ ชนะเลือกตั้ง
“อนาคตของไต้หวันขึ้นอยู่กับการรวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว” หม่า เสี่ยวกวง โฆษกสำนักงานระบุ พร้อมย้ำว่าจะต้องให้ “ชาวจีนทุกคน” เป็นผู้ตัดสินอนาคต
อย่างไรก็ดี ไช่ ชี้ว่าจีนควรเคารพความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในไต้หวัน
“ดิฉันหวังว่าฝ่ายจีนคงจะเข้าใจความคิดเห็นเชิงลึกและเจตนารมณ์ที่ชาวไต้หวันได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ และคงจะมีการทบทวนนโยบายบางอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน” ไช่ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนวันนี้ (15)
ผู้นำไต้หวันยังได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการแทรกซึม (anti-infiltration law) ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำกิจกรรมทางการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนหรือเงินทุนจาก “พลังอำนาจภายนอกที่ก้าวร้าว”
ผู้สังเกตการณ์บางคนวิจารณ์ว่า ไช่ แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนโดยไม่จำเป็น แต่เธอย้ำว่าสิ่งที่ทำอยู่ถือว่าเบาแล้วเมื่อเทียบกับกระแสเรียกร้องภายในพรรค DPP ที่ต้องการให้รัฐบาลผลักดันการแยกตัวเป็นเอกราชอย่างจริงจังกว่านี้