เอเอฟพี – ชาวไต้หวันเดินทางออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนี้ (11 ม.ค.) ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน กับ หัน กว๋อ อี๋ว์ ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง โดยผลที่ออกมาคาดว่าจะเป็นเครื่องชี้ชะตาความสัมพันธ์จีน-ไต้หวันตลอดช่วงหลายปีข้างหน้า
ประชาชนจำนวนมากไปเข้าคิวรอใช้สิทธิ์ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบในเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าจะเริ่มประกาศผลการนับคะแนนเบื้องต้นในช่วงกลางดึกวันนี้ (11)
ศึกเลือกตั้งไต้หวันคราวนี้เป็นที่จับตามองอย่างสูง เนื่องจากคู่แข่งขันทั้ง 2 คนนำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของชาติที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยเฉพาะในประเด็นคำถามที่ว่าไต้หวันควรจะมีความใกล้ชิดกับจีนแผ่นดินใหญ่มากน้อยเพียงใด
ปักกิ่งมองไต้หวันเป็นเพียง ‘มณฑลทรยศ’ ที่จะต้องถูกดึงกลับมารวมกับจีนแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง แม้จะต้องใช้กำลังทหารก็ตาม ขณะเดียวกันจีนก็เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทเป ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์จีน-ไต้หวันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเปราะบางอย่างยิ่ง
ไช่ ซึ่งหวังจะรั้งเก้าอี้ผู้นำสมัยที่ 2 ประกาศตัวเป็นผู้ปกป้องค่านิยมเสรีของไต้หวัน ซึ่งกำลังถูกระบอบเผด็จการจีนในยุคของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ข่มขู่คุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ
“เราหวังว่าพลเมืองทุกคนจะออกมาใช้สิทธิ์ของตนเอง เพื่อทำให้ระบอบประชาธิปไตยของไต้หวันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” ไช่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเข้าคูหาหย่อนบัตรที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในกรุงไทเป
หัน วัย 62 ปี ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเกาสงและคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ ไช่ ชูนโยบายสานความสัมพันธ์อันดีกับจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งมาสู่ไต้หวัน และยังกล่าวหารัฐบาล ไช่ ว่าสร้างภาพให้จีนกลายเป็นผู้ร้ายโดยไม่จำเป็น
หัน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อซึ่งไปรอทำข่าวที่หน่วยเลือกตั้งในเมืองเกาสงวันนี้ (11) แต่เขาเคยประกาศไว้ว่า ศึกเลือกตั้งคราวนี้เป็นการเลือกระหว่าง “สันติภาพหรือวิกฤตการณ์” กับจีน พร้อมทั้งชูสโลแกน “ไต้หวันปลอดภัย, ประชาชนร่ำรวย”
ไต้หวันสั่งห้ามเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นในช่วง 10 วันก่อนเลือกตั้ง แต่จากโพลในช่วงโค้งสุดท้ายพบว่า ไช่ วัย 63 ปี ยังคงมีคะแนนนิยมนำหน้าผู้สมัครคู่แข่งทุกคน ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของ ไช่ จะยังครองเสียงข้างมากในสภาเอาไว้ได้
วิกกี้ เซียว แม่บ้านวัย 37 ปี บอกกับเอเอฟพีว่าเธอเลือกลงคะแนนให้กับ ไช่
“เราต้องการประธานาธิบดีที่จะปกป้องเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตย ไต้หวันเป็นประเทศอิสระและไม่ได้ขึ้นตรงกับใคร” เธอกล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้ใช้สิทธิ์บางรายยอมรับว่าอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลง
“ผมโหวตเลือก หัน เพราะเราให้เวลารัฐบาลไช่มาแล้ว 4 ปี แต่เศรษฐกิจก็ยังแย่ แถมสถานการณ์ในช่องแคบก็ตึงเครียดหนัก” กั๋ว พ่อค้าผักวัย 60 ปี ให้สัมภาษณ์
สถานะของไต้หวันเป็นประเด็นขัดแย้งมานานระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อาวุธรายใหญ่ของไทเป
พรรค DPP มีนโยบายเอียงไปในทางเรียกร้องเอกราช ส่วนตัว ไช่ เองก็ปฏิเสธมุมมองของปักกิ่งที่ถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนเดียว (One China)
ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ไม่พอใจที่จีนใช้มาตรการขั้นรุนแรงจัดการกับผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง รวมถึงการจับชาวมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียงไปเข้าค่ายปรับทัศนคติ
กระแสการประท้วงในฮ่องกงบวกกับผลงานของรัฐบาลที่นำพาเศรษฐกิจฝ่าฟันปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาฐานเสียงของ ไช่ และปีที่แล้วรัฐบาลของเธอยังออกกฎหมายรับรองการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย