เอเจนซี - นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา และผู้นำโลกตะวันตก อ้างพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเครื่องบินโดยสารยูเครนถูกมิสไซล์อิหร่านยิงตกใกล้กรุงเตหะราน โดยอาจเกิดจากความเข้าใจผิด
ผู้นำแคนาดาและสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดครอบคลุม เพื่อหาต้นตอของโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 176 ศพ ขณะที่รัฐบาลอิหร่านยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้เกิดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของตนอย่างแน่นอน
เหตุเครื่องบินตกดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อิหร่านส่งขีปนาวุธไปโจมตีฐานทัพอากาศ 2 แห่งในอิรักซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ โดยเป็นไปเพื่อแก้แค้นที่สหรัฐฯ ส่งโดรนไปสังหาร พล.ต.กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) ของอิหร่าน
สื่อสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตจากช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่า เครื่องบินลำนี้อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็น ‘เครื่องบินรบสหรัฐฯ’ เนื่องจากอิหร่านคงกำลังเตรียมรับมือการโจมตีแก้แค้นของอเมริกา
ซีบีเอสนิวส์อ้างแหล่งข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าดาวเทียมดวงหนึ่งสามารถตรวจจับแสงอินฟราเรดจากขีปนาวุธ 2 ลูกที่ถูกยิงออกไป จากนั้นก็ตามมาด้วยจุดแสงสว่างจากการระเบิด
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์นิตยสารนิวส์วีกอ้างเจ้าหน้าที่เพนตากอน, เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสของอเมริกา และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิรักซึ่งระบุตรงกันว่า เที่ยวบิน PS752 ของยูเครนอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์สน่าจะถูกยิงด้วย ‘ขีปนาวุธทอร์ เอ็ม-1’ ซึ่งผลิตในรัสเซีย
ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดจากเหตุลอบสังหารนายพลโซไลมานีเมื่อวันที่ 3 ม.ค. รัฐบาลอิหร่านประกาศจะไม่ส่งมอบ ‘กล่องดำ’ บันทึกข้อมูลการบินให้กับโบอิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินลำนี้ รวมไปถึงสหรัฐฯ ด้วย
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านยังคงเชื้อเชิญโบอิ้งให้เข้าร่วมกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการ
ตามกฎหมายการบินสากล อิหร่านมีสิทธิที่จะเป็นผู้นำในการสอบสวน ทว่าผู้ผลิตอากาศยานมักจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ภาพจากสถานีโทรทัศน์อิหร่านเผยให้เห็นว่ามีการนำ ‘รถตักดิน’ เข้ามาใช้บริเวณจุดที่เครื่องบินยูเครนตก
นายกรัฐมนตรีทรูโดของแคนาดาอ้างว่า ได้รับข่าวกรองจากหลายแหล่งซึ่งบ่งชี้ว่าเครื่องบินโดยสารยูเครนถูกสอยร่วงด้วยขีปนาวุธชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศ (surface-to-air missile) ของอิหร่าน ซึ่งอาจเป็นการกระทำโดยไม่เจตนา แต่ก็ย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะชี้หน้ากล่าวโทษหรือยืนยันข้อสรุปใดๆ
“ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดครอบคลุม ชาวแคนาดามีคำถามซึ่งจำเป็นต้องได้รับคำตอบ” ทรูโด ระบุ
เครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสารชาวแคนาดาอยู่ 63 คน รวมถึงพลเมืองสัญชาติอื่นๆ อีกหลายสิบคนซึ่งคาดว่าจะต่อเครื่องบินจากกรุงเคียฟไปยังนครโทรอนโต
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ให้ข้อมูลไม่ต่างจากทรูโด และย้ำว่าอังกฤษจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับแคนาดาและหุ้นส่วนนานาชาติที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุดังกล่าว
โดมินิก ราบ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แจ้งเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิหร่านในช่วงนี้ “เนื่องจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเที่ยวบิน 752 ของ UIA ถูกยิงด้วยขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศของอิหร่าน รวมถึงสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอิรักให้ข้อมูลกับนิวส์วีคว่า อาวุธที่โจมตีเครื่องบินยูเครนน่าจะเป็นขีปนาวุธ ทอร์ เอ็ม-1 ซึ่งผลิตในรัสเซีย และเป็นปฏิบัติการที่เกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากเวลานั้นระบบต่อต้านอากาศยานของอิหร่านน่าจะอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมรับมือการแก้แค้นของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมมีข้อสงสัยอยู่ และมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ แต่อาจจะมีใครบางคนเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งผิด”
โอเล็กซีย์ ดานีลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงและกลาโหมของยูเครน ได้โพสต์เฟซบุ๊กวานนี้ (9 ม.ค.) โดยตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับสาเหตุการตกของเครื่องบินเอาไว้ 3 ประการ ได้แก่
1) การพุ่งชนกลางอากาศกับโดรนหรือวัตถุบินได้
2) เครื่องยนต์เสียหายหรือระเบิดจากเหตุขัดข้องทางเทคนิค
3) การระเบิดภายในลำตัวเครื่องบินซึ่งเป็นผลจากการก่อการร้าย
อาลี อาเบดซาเดห์ ผู้อำนวยการองค์กรการบินพลเรือนอิหร่าน (CAOI) ออกมาชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “เครื่องบินลำนี้เดินทางออกจากสนามบินโดยมุ่งไปทางทิศตะวันตกในช่วงแรกๆ ก่อนจะหักเลี้ยวขวาเนื่องจากพบปัญหา และหันหัวกลับมายังสนามบินตอนที่เครื่องตก”
อาเบดซาเดห์ อ้างคำบอกเล่าของพยานที่เห็นว่าเครื่องบินลำนี้ “เกิดไฟลุกไหม้” ก่อนที่จะร่วงโหม่งโลก และยืนยันว่านักบินไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือใดๆ ก่อนจะพยายามนำเครื่องกลับมาลงจอดที่สนามบินอิหม่ามโคไมนี
“จึงเป็นไปไม่ได้เลยในทางวิทยาศาสตร์ที่เครื่องบินยูเครนจะถูกยิงด้วยขีปนาวุธ ข่าวลือพวกนี้ไร้เหตุผล” เขากล่าว
อาลี ราบิอี โฆษกรัฐบาลอิหร่าน ประณามรายงานข่าวที่ออกมาว่าเป็น “สงครามจิตวิทยา”