รัสเซียทูเดย์ - จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านในวันอังคาร(7ม.ค.) ตั้งข้อสงสัยสหรัฐฯอาจกลัวถูกเปิดโปงความจริง หลังปฏิเสธออกวีซ่าแก่เขา ซึ่งต้องการเดินทางไปร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ในนิวยอร์ก ในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งที่อเมริกาในฐานะที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ยูเอ็น มีหน้าที่ต้องเปิดทางให้พวกเจ้าหน้าที่ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
คำขออนุมัติวีซ่าถูกยื่นไปตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน ก่อนที่สถานการณ์ความตึงเครียดจะลุกลามบานปลายล่าสุด แต่มันจะเปิดทางให้ผู้แทนทูตสูงสุดของอิหร่านรายนี้ขึ้นเวทีพูดต่อที่ประะชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงเหตุการณ์สหรัฐฯใช้โดรนโจมตีลอบสังหาร พลเอกกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน และพวกผู้นำทางทหารระดับสูงของอิรักอีกหลายคนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว
"พวกเขากลัวว่าใครบางคนจะเดินทางมาสหรัฐฯและเปิดเผยความจริง" ซารีฟกล่าวหลังถูกปฏิเสธวีซ่า อย่างไรก็ตามเขาประกาศก้องว่าจะสื่อสารถึงประชาชนชาวอเมริกาจากเตหะราน "โลกไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในนิวยอร์กเสียหน่อย"
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาวีซ่าของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน แต่ภายใต้ความตกลงเกี่ยวกับการตั้งสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในอเมริกาปี 1974 สหรัฐฯจะต้องอนุมัติวีซ่าแก่นักการทูตต่างชาติที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องกับสหประชาชาติ อย่างไรก็ตามอเมริกาสามารถปฏิเสธวีซ่าได้ ในเหตุผลด้านความมั่นคง ก่อการร้ายและนโยบายต่างประเทศ
เหตุฆาตกรรมพลเอกกาเซ็ม โซไลมานี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก โหมกระพือความโกรธแค้นทั้งในอิหร่านและอิรัก ด้วยอิหร่านประกาศแก้แค้นในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นก่อการร้ายข้ามชาติ แต่ในขณะเดียวกันทางวอชิงตัน ยืนกรานว่าโซไลมานี คือผู้บงการอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีบุคลากรสหรัฐฯหลายต่อหลายครั้ง ในนั้นรวมถึงที่สถานทูตอเมริกา พร้อมอ้างว่าเขากำลังวางแผนโจมตีระลอกใหม่