ไล่ก็ไม่ไป! สหรัฐฯ ปัดข่าวเตรียมถอนทหารจากอิรัก หลังรัฐสภาแบกแดดลงมติตะเพิดพ้นประเทศ

เอพี/เอเอฟพี - มาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมยืนยันในวันจันทร์ (6 ม.ค.) สหรัฐฯ ไม่ได้ตัดสินใจถอนทหารจากอิรัก ในการแสดงความคิดเห็นตอบโต้หนังสือฉบับหนึ่งจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพซึ่งบ่งชี้ว่าอยู่ระหว่างดำเนินการถอนทหาร

เอสเปอร์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (6 ม.ค.) ว่าสหรัฐฯ ไม่ได้กำลังถอนทหารออกจากอิรัก พร้อมระบุว่าเขาไม่ทราบอะไรเลยเกี่ยวกับหนังสือฉบับหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังมีการเตรียมการบางอย่างสำหรับถอนทหารออกจากอิรัก อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าอาจมีการจัดวางกำลังพลสหรัฐฯ ใหม่บางส่วน

“ไม่มีการตัดสินใจอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการออกจากอิรัก” เขากล่าว “ไม่มีการตัดสินใจถอนกำลัง เราไม่ได้ออกแผนการใดๆ สำหรับถอนกำลังจากอิรักหรือเตรียมพร้อมออกจากอิรัก” แอสเปอร์ระบุ พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯยังคงมุ่งมั่นในการทำสงครามกำจัดกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและในภูมิภาค

เอกสารเจ้าปัญหานี้ เป็นจดหมายจากนายพลจัตวา วิลเลียม ซีลีย์ ผ้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจแห่งกองทัพสหรัฐฯ ลงวันที่ 5 มกราคม แจ้งถึงกองทัพอิรักว่า ทหารอเมริกากำลังเตรียมการถอนตัวออกจากอิรัก “เราเคารพอธิปไตยของคุณที่ตัดสินใจสั่งให้เราออกนอกประเทศ” เนื้อหาในหนังสือระบุ ทั้งนี้ต่อมาเจ้าหน้าที่กลาโหมของทั้งอิรักและสหรัฐฯต่างยืนยันว่ามันเป็นของจริง

นายพลซีลีย์บอกว่า พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ จะดำเนินการจัดวางกำลังพลใหม่ในช่วงไม่กี่วันและไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า “เพื่อดำเนินภารกิจนี้ กองกำลังพันธมิตรจำเป็นต้องใช้มาตรการบางอย่างเพื่อรับประกันว่าความเคลื่อนไหวออกจากอิรักจะดำเนินการในแนวทางที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ”

หนังสือแจ้งด้วยว่าฝูงบินเฮลิคอปเตอร์จะบินเข้าและออกเขตกรีนโซนบริเวณที่สถานทูตสหรัฐฯ ตั้งอยู่ ส่วนหนึ่งของการเตรียมการถอนกำลัง

อย่างไรก็ตาม มาร์คฃก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ระบุในเวลาต่อมาว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงจดหมายฉบับร่างเฉยๆ และความจริงก็คือมันไม่ควรถูกส่งออกไป “มันเป็นความผิดพลาด ความเป็นความผิดพลาดจริงๆ มันเป็นหนังสือร่างที่ไม่มีการลงนาม เพราะเรากำลังโยกย้ายกำลังพล มันไม่ควรถูกส่งออกไป”

เหตุการณ์ล่าสุดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ชาวอิหร่านเรือนล้านออกมารวมตัวตามถนนสายต่างๆ ในกรุงเตหะรานวันจันทร์ (6 ม.ค.) เพื่อเข้าร่วมพิธีศพของนายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ในสังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งถูกโดรนของสหรัฐฯสังหารในกรุงแบกแดดเมื่อวันศุกร์ (3 ม.ค.)

ในบรรดาบุคคลที่เสียชีวิตไปพร้อมกับเขานั้น รวมไปถึงอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส นายทหารคนสำคัญของอิรัก กระตุ้นให้รัฐสภาอิรักในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ผ่านมติเรียกร้องให้รัฐบาลขับไล่ทหารต่างชาติทั้งหมดออกจากแผ่นดินอิรัก

แม้มติลักษณะนี้จะไม่ได้มีผลบังคับให้รัฐบาลต้องทำตาม และต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน ทว่าตัวนายกรัฐมนตรีอิรักเองก็เคยออกมาเรียกร้องให้สภาลงมติขับไล่ทหารต่างชาติออกไปให้เร็วที่สุดเช่นกัน

ปัจจุบัน มีทหารอเมริกันประจำในอิรักราว 5,200 นาน เพื่อสนับสนุนฝึกอบรมกองทัพอิรักในการป้องกันไม่ให้ไอเอสฟื้นคืนชีพ และเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังพันธมิตรที่รัฐบาลอิรักเชื้อเชิญให้ไปช่วยขับไล่ไอเอสเมื่อปี 2014