xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ลั่นไม่มีเจตนา ‘ก่อสงคราม’ หลังส่งโดรนปลิดชีพผบ.หน่วยคุดส์อิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันปฏิบัติการโจมตีในกรุงแบกแดดซึ่งสังหาร กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds) ของอิหร่านเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) เป็นไปเพื่อ “ยับยั้ง” ไม่ใช่ “ก่อสงคราม” ขณะที่อิหร่านซึ่งสูญเสียนายพลคนสำคัญประกาศจะแก้แค้นอเมริกาอย่างสาสม

ปฏิบัติการยิงถล่มด้วยโดรนซึ่งได้รับไฟเขียวจาก ทรัมป์ ถือเป็นการยกระดับ “สงครามเงา” ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร โดยเฉพาะอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นศัตรูกับอิหร่านมายาวนาน

โซไลมานี วัย 62 ปี คือผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการในต่างแดนของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) และถือได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลเบอร์ 2 ของประเทศรองจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่า โซไลมานี มีแผนโจมตีบุคลากรอเมริกันทั่วตะวันออกกลาง ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตวิจารณ์คำสั่งของ ทรัมป์ ว่า “ขาดความยับยั้งชั่งใจ” และเสี่ยงกระพือความขัดแย้งรุนแรงในตะวันออกกลาง

“โซไลมานี กำลังวางแผนอันชั่วร้ายเพื่อโจมตีนักการทูตและทหารอเมริกัน แต่เราจับได้เสียก่อน และกำจัดเขาทิ้ง ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่รีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา

“ปฏิบัติการของเราเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นไปเพื่อยับยั้งสงคราม เราไม่ได้มีเจตนาก่อสงคราม”

ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่าน แต่ย้ำว่าเตหะรานจะต้องยุติการกระทำก้าวร้าวในภูมิภาค โดยเฉพาะการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธให้ทำสงครามตัวแทน

นายพลระดับสูงของสหรัฐฯ คนหนึ่งเตือนว่า แผนโจมตีของ โซไลมานี อาจจะยังเกิดขึ้นได้แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว ขณะที่วอชิงตันเตรียมส่งทหารจากกองพลส่งกำลังทางอากาศที่ 82 เสริมเข้าไปในตะวันออกกลางอีกเกือบ 3,000 นาย เพิ่มเติมจากทหาร 750 นายที่ถูกส่งไปยังคูเวตในสัปดาห์นี้

การโจมตีของสหรัฐฯ ครั้งนี้ยังปลิดชีพ อบู มะห์ดี อัล-มุฮันดิส (Abu Mahdi al-Muhandis) ผู้นำกลุ่มติดอาวุธในอิรักและที่ปรึกษาของโซไลมานี


ชาวอิรักบางกลุ่มประณามการกระทำของสหรัฐฯ เนื่องจากเห็นว่า โซไลมานี นั้นมีส่วนสำคัญในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขณะที่บางคนเห็นดีเห็นงามด้วย เนื่องจากโกรธแค้นที่ โซไลมานี และ มูฮันดิส ส่งเสริมให้ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว ทั้งยังตั้งกลุ่มติดอาวุธซึ่งฝ่ายผู้ชุมนุมเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจในอิรัก

อย่างไรก็ตาม พลเมืองอิรักส่วนใหญ่ไม่พอใจที่สหรัฐฯ ถืออำนาจบาตรใหญ่ฆ่าคนในประเทศของพวกเขา ซึ่งอาจเป็นการดึงอิรักเข้าสู่สงครามครั้งใหม่

ด้านนายกรัฐมนตรี อาเดล อับดุล มะห์ดี แห่งอิรัก ก็ออกมาประณามสหรัฐฯ ว่าละเมิดอธิปไตย และฝ่าฝืนข้อตกลงในการคงทหารอเมริกันไว้ในประเทศ

ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (4) ขบวนรถขนบุคลากรทางการแพทย์ของกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังถูกโจมตีทางอากาศใกล้ๆ กับสนามกีฬา Taji Stadium ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 รายและบาดเจ็บอีก 3 ราย ซึ่งสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิรักรายงานว่าเป็นฝีมือสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีคำยืนยันจากวอชิงตัน

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงอิรัก 2 คนเผยว่า ปฏิบัติการปลิดชีพ โซไลมานี เกิดขึ้นหลังจากสายสืบซึ่งได้รับการว่าจ้างโดยสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) แจ้งวันเวลาที่ โซไลมานี จะเดินทางไปถึงแบกแดดและนั่งรถออกจากสนามบิน

อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ขู่จะแก้แค้น “อาชญากร” ที่สังหาร โซไลมานี และระบุว่าการเสียชีวิตของนายพลผู้นี้จะยิ่งกระตุ้นให้อิหร่านต่อต้านสหรัฐฯ และอิสราเอลมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่าการโจมตีของสหรัฐฯ คราวนี้เทียบได้กับการ “ก่อการร้ายสากล” และอิหร่านจะต่อสู้ทางกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อให้วอชิงตันชดใช้ความผิดที่กระทำไป

เจ้าหน้าที่อเมริกันยืนยันว่า โซไลมานี เสียชีวิตจากปฏิบัติการโดรน ขณะที่ฝ่ายอิหร่านระบุว่าเขาถูกเฮลิคอปเตอร์สหรัฐฯ ยิงถล่ม

ในจดหมายที่ส่งถึงเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ รัฐบาลอิหร่านขอสงวนสิทธิ์ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่จะดำเนินการป้องกันตนเอง และย้ำว่าปฏิบัติการลอบสังหาร โซไลมานี “คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนของการก่อการร้ายโดยรัฐ (state terrorism)”
กำลังโหลดความคิดเห็น