รอยเตอร์ - ยืนยันพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 รายในวันพุธ(1ม.ค.) ท่ามกลางวิกฤตไฟป่าครั้งหายนะที่ห้อมล้อมชายฝั่งทางตะวันตกของออสเตรเลียมาตลอดทั้งสัปดาห์ ส่วนรายที่ 4 สูญหายและเกรงกว่าอาจเสียชีวิตแล้วเช่นกัน ขณะที่เรือของกองทัพเรือเร่งปฏิบัติการส่งมอบเสบียงและเข้าช่วยหลือภารกิจอพยพประชาชน
ยอดรวมผู้เสียชีวิตในตอนนี้เชื่อว่าน่าจะมีอย่างน้อย 15 ศพและผู้คนอีกจำนวนมากยังคงสูญหาย หลายสัปดาห์หลังจากไฟป่ามรณะโหมกระพือทั่วชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในภาวะเหี่ยเฉาหลังเผชิญภัยแล้งมาตลอดช่วง 3 ปีหลังสุด
อุณหภูมิที่สูงขึ้น เปลวเพลิงและกลุ่มควันแผ่ปกคลุมทั่วทั้งเมืองในวันจันทร์(30ธ.ค.)และวันอังคาร(31ธ.ค.) ส่งผลให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวหลายพันคนหลบภัยไปยังชายหาดต่างๆ ด้วยจำนวนมากต้องลงอยู่ยืนอยู่ในน้ำตื้นเพื่อหลบหนีเปลวไฟ
ไฟป่าทำลายเนื้อที่ไปแล้วมากกว่า 25.3 ล้านไร่ และมีไฟป่าจุดใหม่ๆเพิ่มขึ้นในเกือบทุกวันสืบเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีลมแรง ขณะที่ฟ้าผ่าก็เป็นชนวนให้เกิดไฟไหม้เช่นกัน
สภาพอากาศที่เย็นลงในวันพุธ(1ม.ค.) เปิดโอกาสให้ประเทศแห่งนี้พอมีเวลาจัดการกับเปลวไฟ แม้ยังคงมีไฟไหม้อีกมากกว่า 100 จุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์เพียงแห่งเดียว และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันคนยังคงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แกรี วอร์บอยส์ รองผู้บัญชาการตำรวจนิวเซาท์เวลส์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในซิดนีย์ว่า "น่าเศร้าที่เราต้องขอแจ้งว่า ตำรวจยืนยันมาว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 3 ราย ผลจากไฟป่าในเซาท์โคสต์" เขากล่าว "ตอนนี้ตำรวจกำลังอยู่ที่ทะเลสาบคอนโจลาด้วย เนื่องจากมีบ้านหลังหนึ่งถูกไฟป่าเผาทำลายและยังไม่พบผู้พักอาศัยอยู่ภายใน"
ตำรวจนิวเซาท์เวลส์ไม่ได้ระบุตัวตนผู้สูญหาย โดยเพียงแต่บอกว่าเป็นชายวัย 72 ปีและเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงบ้านพักของเขาได้
จากการประเมินในเบื้องต้นของตำรวจ พบว่ามีบ้านเรือนเกือบ 200 หลังถูกทำลาย แม้พวกเขาเตือนว่ามันเป็นเพียงแต่การประมาณการในเบื้องต้นเท่านั้น
ในรัฐวิกตอเรีย ดาเนียล แอนดรูว์ นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐเผยว่าประชาชน 4 คนยังคงสูญหาย หลังจากไฟป่าขนาดใหญ่โหมกระพือทั่วกิปป์สแลนด์ ภูมิภาคห่างไกล ห่างจากเมืองเมลเบิร์น ไปทางตะวันออกราว 500 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันชาวบ้านราว 4,000 คนในเมืองมัลลาคูตา ในรัฐเดียวกัน ก็จำเป็นต้องมุ่งหน้าไปหาชายหาดริมฝั่ง หลังจากถนนสายหลักถูกตัดขาด
นอกจากนี้ยังมีชาวออสเตรเลียอีกหลายพันคนยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากไฟป่าบีบให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนสายหลักๆ ส่งผลให้คนจำนวนมากกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งเสบียงและข้าวของต่างๆ
ในมิลตัน เมืองเล็กๆตามแนวชายฝั่งทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ พบเห็นพวกชาวบ้านต่อแถวกันยาวเหยียดนานหลายชั่วโมง เพื่อรอจับจ่ายซื้อข้าวของตามซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆที่เหลือสินค้าเพียงเล็กน้อย โดยห้างร้านบางแห่งจำกัดให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ไม่เกินคนละ 6 ชิ้น และด้วยมีปัญหาไฟป่าดับ นั่นจึงหมายความว่าร้านค้าเหล่านั้นรับชำระเงินเฉพาะเป็นเงินสดเท่านั้น
ขณะที่ข้าวของใกล้เกลี้ยงร้านค้าต่างๆและหน่วยดับเพลิงประสบกับปัญหาความอ่อนเพลีย ทางกองทัพจึงกำลังส่งฝูงบินเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค, อากาศยานที่มีปีกยึดติดกับลำตัวและกองเรือ เข้าร่วมในภารกิจกู้ภัยและบรรเทาทุกข์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมการบริหาารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่าเรือเดินสมุทร HMAS Choules อาจถูกใช้สำหรับทำการอพยพชาวบ้านจำนวนมากที่ติดค้างอยู่ในเมืองมัลลาคูตา และแม้สามารถบรรทุกได้ถึง 1,000 คน แต่มันเพียงแค่ลำเดียวดูจะไม่เพียงพอ
HMAS Choules มีกำหนดเดินทางถึงพื้นที่ประสบภัยในวันพฤหัสบดี(2ม.ค.)
เกรดี เบเรจิคเลียน นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือกู้คืนระบบสื่อสารตามพื้นที่่ต่างๆที่ถูกตัดขาดจากไฟไหม้ แม้เธอเตือนว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลงอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ "สภาพอากาศในวันเสาร์ จะแย่พอๆกับเมื่อวันอังคาร" เธอกล่าว
ขณะเดียวกันกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย ถูกปกคลุมไปด้วยควันหนาทึบ โดยมลพิษทางอากาศอยู่เหนือระดับที่เป็นอันตรายกว่า 20 เท่า กระตุ้นให้มีการประกาศเตือนทางสุขภาพ นอกจากนี้ควันยังลอยไปถึงนิวซีแลนด์ เปลี่ยนท้องฟ้าตอนกลางวันทั่วเกาะเซาท์ไอส์แลนด์ เป็นสีส้ม