รอยเตอร์ - รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมส่งเรือรบและฝูงบินตรวจการณ์ไปช่วยคุ้มกันเรือสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นในตะวันออกกลาง หลังพบว่าสถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันดิบเกือบ 90% ยังไม่น่าไว้วางใจ เอกสารจากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยวันนี้ (27 ธ.ค.)
ญี่ปุ่นจะส่งเรือพิฆาตพร้อมเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินตรวจการณ์ P-3C อีก 2 ลำ ออกไปเก็บข้อมูลในพื้นที่จริง เพื่อรับรองว่าเรือสัญชาติญี่ปุ่นจะสามารถเดินทางเข้าออกน่านน้ำตะวันออกกลางได้อย่างปลอดภัย
ในกรณีฉุกเฉิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นจะมีสิทธิ์สั่งการให้กองกำลังเหล่านี้ใช้อาวุธเพื่อปกป้องเรือญี่ปุ่นที่กำลังถูกคุกคาม
ข้อพิพาทระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นำอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 และตัดสินใจรื้อฟื้นบทลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเตหะราน
ระหว่างเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมามีเรือสินค้านานาชาติหลายลำถูกโจมตีบริเวณอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงเรือ โคคุกะ เคอเรเจียส (Kukuka Courageous) ของญี่ปุ่น
สหรัฐฯ กล่าวโทษอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีทั้งหมด ในขณะที่เตหะรานยืนกรานปฏิเสธ
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ ที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับอิหร่าน ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมภารกิจคุ้มกันเรือสินค้าในน่านน้ำตะวันออกกลางที่นำโดยอเมริกา แต่เลือกที่จะส่งกองกำลังของตนเองไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวอย่างเป็นเอกเทศ
สัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้แจ้งรายละเอียดของแผนการส่งกองกำลังทางเรือไปยังตะวันออกกลางให้ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่านซึ่งเดินทางมาเยือนโตเกียวรับทราบ
ปฏิบัติการคุ้มกันเรือของญี่ปุ่นจะครอบคลุมน่านน้ำอ่าวโอมาน, ทะเลอาระเบียตอนเหนือ และอ่าวเอเดน ทว่าจะไม่เข้าไปในช่องแคบฮอร์มุซ
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า เครื่องบินตรวจการณ์จะเริ่มปฏิบัติภารกิจในเดือน ม.ค. ส่วนเรือพิฆาตพร้อมเฮลิคอปเตอร์จะถูกส่งไปยังตะวันออกกลางในราวๆ เดือน ก.พ.
ทางด้านฝรั่งเศสก็เตรียมส่งเรือรบเข้าไปปฏิบัติภารกิจคุ้มกันเรือในตะวันออกกลางตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นต้นไปเช่นกัน