เอเจนซีส์ – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรคาทอลิก ทรงมีพระดำรัสเนื่องในวันคริสต์มาสประณามเหตุโจมตีชาวคริสต์ในแอฟริกา และประทานพรให้แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้ง ภัยธรรมชาติ และโรคระบาดในภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของโลก
โป๊ปฟรานซิสเสด็จออก ณ ระเบียงด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์วานนี้ (25 ธ.ค.) เพื่อทรงมีพระดำรัสอวยพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่ทรงเข้ารับตำแหน่งประมุขคริสตจักร
“มีความมืดมนอยู่ในความสัมพันธ์ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม ทว่าแสงแห่งพระคริสต์นั้นยิ่งใหญ่กว่า ในด้านเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมก็มีความมืดมนเช่นกัน ทว่าแสงแห่งพระคริสต์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่า” โป๊ปตรัส
โป๊ปฟรานซิสทรงอวยพร “ขอความสุขสบายให้แก่ผู้ที่ถูกทำร้ายกดขี่เพราะความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะมิชชันนารีและชาวคริสต์ที่ถูกลักพาตัว ตลอดจนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงในบูร์กินาฟาโซ, มาลี, ไนเจอร์ และไนจีเรีย”
พระองค์ยังสวดภาวนาให้แก่ “ผู้ที่ได้รับความทุกข์ยากจากเหตุรุนแรง ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาดต่างๆ รวมไปถึงผู้อพยพที่ยอมเสี่ยงตายข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในยุโรป”
“ความอยุติธรรมทำให้พวกเขาต้องข้ามน้ำและทะเลทรายซึ่งกลายเป็นสุสาน... ความอยุติธรรมทำให้พวกเขาต้องเผชิญการล่วงละเมิด การตกเป็นทาส และความทรมานในค่ายกักกัน ความอยุติธรรมทำให้พวกเขาต้องละทิ้งสถานที่ที่พวกเขาหวังจะใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี และหันไปพบว่าตัวเองยืนประจันหน้ากับกำแพงแห่งความเพิกเฉย”
โป๊ปทรงย้ำว่า แม้โลกจะเผชิญปัญหาร้ายแรงมากมาย แต่คนเราไม่จำเป็นต้องพยายามแก้ไขความอยุติธรรมที่อยู่ไกลตัว หากแต่ควรสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในชุมชนของตนเอง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยารักษาสมาชิกในครอบครัวแห่งมนุษยชาติที่กำลังทุกข์ทรมาน