เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลียอาศัยสภาพอากาศที่เย็นลงเร่งต่อสู้กับไฟป่าที่เผาทำลายเมืองต่างๆ ก่อนที่อุณหภูมิจะกลับสูงขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่วันนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน เร่งรุดพบทีมดับไฟป่า พร้อมปกป้องทั้งนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของรัฐบาล และการที่ตนเองเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ฮาวายสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งที่ประชาชนมากมายกำลังเครียดกับภัยพิบัติ
เกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์ (22 ธ.ค.) ว่าไฟป่าได้เผาทำลายเมืองบัลมอรัลจนแทบไม่มีอะไรเหลือ เมืองนี้อยู่ห่างจากซิดนีย์ราว 120 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ มีประชากรประมาณ 400 คน ด้านมอร์ริสันเดินทางไปเยี่ยมศูนย์บัญชาการดับเพลิงชนบท (อาร์เอฟเอส) รัฐนิวเซาธ์เวลส์ที่เมืองซิดนีย์ หลังเดินทางกลับจากพักผ่อนที่ฮาวายกับครอบครัวเมื่อคืนวันเสาร์
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสองคนเสียชีวิตในคืนวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) มอร์ริสันที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ประกาศว่า จะเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนด ซึ่งในวันอาทิตย์เขายอมรับว่า การไปพักผ่อนของตนเองทำให้ประชาชนจำนวนมากกังวลและไม่พอใจ
รายงานระบุว่า ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ยังคงมีไฟป่าเกิดขึ้นเกือบ 100 จุดทั่วนิวเซาธ์เวลส์ แม้ไม่มีจุดใดรุนแรงถึงขั้นฉุกเฉินก็ตาม นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่า สภาพอากาศในช่วงหลายวันต่อจากนี้จะยังคงเอื้ออำนวยต่อการควบคุมและดับเพลิงที่กำลังลุกลามเข้าสู่ชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตบลูเมาเทนส์ทางตะวันตกของซิดนีย์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่า ไฟป่าขนาดใหญ่จะยังคงเผาไหม้ทั่วรัฐนิวเซาธ์เวลส์อีกหลายสัปดาห์ หากไม่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก
เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ ผู้บัญชาการอาร์เอฟเอส คาดว่า ต้องรออีก 4-6 สัปดาห์จึงจะเห็นสภาพอากาศดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับตอนนี้ กระนั้น มีการคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกในบางจุดที่เกิดไฟป่าในนิวเซาธ์เวลส์ในวันอังคารและพุธนี้ (24-25 ธ.ค.) เขาเสริมว่า สภาพไฟป่าในวันเสาร์อาจทำให้มีอาคารบ้านเรือนเสียหายหรือถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีกราว 100 หลัง
ออสเตรเลียต่อสู้กับไฟป่ามานานนับเดือน ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งที่ทำให้ฤดูไฟป่าเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และไฟได้เผาทำลายบ้านเรือนกว่า 100 หลัง รวมทั้งทุ่งไม้พุ่มเกือบ 3 ล้านเอเคอร์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดเท่าประเทศเบลเยียม และทำให้เมืองใหญ่ตั้งแต่บริสเบนถึงซิดนีย์ แคนเบอร์รา และเมลเบิร์นถูกปกคลุมด้วยหมอกควันพิษ กระทั่งแพทย์หลายคนเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในนิวเซาธ์เวลส์ที่มีควันพิษคละคลุ้งมานานอย่างไม่เคยมีมาก่อน
รัฐเซาธ์ออสเตรเลียและวิกตอเรียเผชิญไฟป่ารุนแรงเช่นเดียวกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีบ้านเรือน 72 หลังถูกเผาทำลายจากไฟป่าจุดเดียว ในวันเดียวกันนั้น มอร์ริสันแถลงปกป้องนโยบายสภาพภูมิอากาศของพรรคแนวร่วมเสรีนิยม-ชาตินิยมของตนเองที่ถูกกดดันอย่างหนักจากความรุนแรงของไฟป่าในปีนี้
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยอมรับว่า ไม่อาจโต้แย้งได้ว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับสภาพอากาศทั่วโลก แต่ยืนยันว่า ไม่มีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างไฟป่าในจุดใดจุดหนึ่งกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ต้นเดือนนี้แคนเบอร์ราถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงในที่ประชุมสุดยอดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จากนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ใช้เครดิตคาร์บอนเดิมมาหักลบเป้าหมายการปล่อยไอเสียในอนาคต
ออสเตรเลียนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดต่อหัว เนื่องจากพึ่งพิงถ่านหินเป็นหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า และแม้ให้สัญญาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 26% จากระดับในปี 2005 ให้ได้ภายในปี 2030 แต่ยังคงมีเสียงวิจารณ์ว่า มอร์ริสันขาดมาตรการเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น
ในวันอาทิตย์ มอร์ริสันย้ำสนับสนุนนโยบายเหล่านั้นซึ่งเขาประกาศไว้ในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้บ่งชี้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายส่งเสริมการใช้ถ่านหินแต่อย่างใด