เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย ออกมาปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ภาครัฐเลิกสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหิน ซึ่งถูกมองว่าเป็นต้นเหตุภาวะโลกร้อนและวิกฤตไฟป่า โดยชี้ว่าข้อเสนอดังกล่าว “ขาดความยั้งคิด” และจะ “ทำลายการจ้างงาน” ในออสเตรเลีย
รัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟของ มอร์ริสัน ชูนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมถ่านหินซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งออกถ่านหินทั่วโลก และยังเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างงานให้กับประชาชนในเขตเลือกตั้งสำคัญๆ ที่คะแนนเสียงแกว่งไปมาไม่แน่นอน
“ผมจะไม่มีวันทำลายตำแหน่งงานของชาวออสเตรเลียหลายพันคนด้วยการหันหลังให้กับอุตสาหกรรมดั้งเดิม” มอร์ริสัน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ เซเว่น เน็ตเวิร์ค โดยย้ำจุดยืนที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่ออื่นๆ มาแล้ว
“เราจะไม่ตั้งเป้าหมายที่ขาดความยั้งคิด ทำลายการจ้างงาน และบีบคั้นเศรษฐกิจอย่างที่ใครหลายคนเรียกร้องกันอยู่” เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 หลังจากรัฐบาลถูกกดดันให้หันไปใช้นโยบายที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศมากกว่านี้
การเดินสายออกสื่อของผู้นำออสซี่มีขึ้น หลังจากที่เขาโดนสังคมประณามอย่างหนักที่หลบไปพักผ่อนกับครอบครัวที่ฮาวายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ชาวออสเตรเลียนับล้านคนกำลังหวาดผวากับวิกฤตไฟป่าซึ่งลุกลามกินพื้นที่พอๆ กับประเทศเบลเยียม และทำให้เมืองใหญ่ตั้งแต่บริสเบน ซิดนีย์ แคนเบอร์รา และเมลเบิร์น ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันพิษ
แม้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นพอสมควรในวันนี้ (23) แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมีมีบ้านเรือนถูกเผาทำลายไปเกือบ 200 หลังในรัฐเซาท์ออสเตรเลียและนิวเซาท์เวลส์
ออสเตรเลียเผชิญไฟป่าอยู่เป็นประจำทุกปี แต่นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าลักษณะอากาศหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น ฝนที่ตกน้อย, อุณหภูมิที่สูงจนทุบสถิติ และกระแสลมแรง เป็นสาเหตุให้ไฟป่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิต่อฤดูร้อนปีนี้เข้าขั้นเลวร้ายเป็นประวัติการณ์
มอร์ริสัน ยืนยันว่าออสเตรเลียจะสามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนลง 26-28% จากระดับเมื่อปี 2005 ได้ภายในปี 2030 ตามที่ตั้งเป้าไว้
“ผมจะยังใช้รูปแบบการจัดการอย่างรับผิดชอบเพื่อแก้ไขปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และรับรองว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะยังคงเติบโตได้ท่ามกลางปัญหาสภาพอากาศที่รุนแรงในเวลานี้” มอร์ริสัน ระบุ
นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่า เป้าหมายที่นานาชาติกำหนดไว้นั้นยังไม่เพียงพอที่จะคงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และจำเป็นต้องลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากขึ้นไปอีก
รัฐบาลมอร์ริสันยังถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีใช้เครดิตคาร์บอนมาหักลบเป้าหมายลดการปล่อยไอเสีย แทนที่จะมีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง
แม้การปล่อยคาร์บอนของออสเตรเลียจะยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับชาติผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ๆ ทว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ส่งออกจากออสเตรเลีย โดยเฉพาะถ่านหิน เป็นตัวการก่อก๊าซเรือนกระจกประมาณ 7% ของโลก