รอยเตอร์ - สภาผู้แทนราษฏรอังกฤษ(สภาสามัญชน) ลงมติเห็นชอบข้อตกลงเบร็กซิตของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ในวันศุกร์(20ธ.ค.) ก้าวย่างแรกที่เปิดทางให้ผู้นำรายนี้ทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียง ว่าจะนำพาสหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคม หลังคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
สภาสามัญชนลงมติด้วยคะแนน 358 ต่อ 234 เสียงในการโหวตวาระ 2 ของร่างกฎหมายดังกล่าว ตอกย้ำว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาของจอห์นสัน น่าจะช่วยรับประกันว่าการรับรองข้อตกลงถอนตัวคงเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่การบังคับใช้ข้อตกลงเบร็กซิตจะเป็นการปรับเปลี่ยนทางนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรในรอบกว่า 40 ปี
นานกว่า 3 ปีนับตั้งแต่ผู้คนในสหราชอาณาจักรโหวตถอนตัวจากอียูในประชามติปี 2016 ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเบร็กซิตก่อนหน้านี้ ท้ายที่สุดแล้วก็ถูกแทนที่ด้วยเส้นตายที่แน่นอนของการแยกตัวในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2020 แต่หลังจากนั้น จอห์นสัน จะต้องเผชิญกับงานสาหัสในการเจรจาเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงการค้ากับอียู ซึ่งกำหนดเป้าหมายว่าจะต้องบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ก่อนสิ้นปีหน้า
ความพยายามผลักดันให้รัฐสภาลงมติข้อตกลงเบร็ตซิตก่อนเทศกาลคริสต์มาสคือเป็นเป้าหมายหลักของจอห์นสัน และผลที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าเขาคือผู้กุมบังเหียนหนทางแห่งการมุ่งหน้าสู่เบร็กซิต ต่างจากอดีตนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แม้เขายังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพวกสมาชิกสภาสามัญชนจากฝ่ายค้านก็ตาม
"นี่คือเวลาที่เราเดินหน้าและฉีกทิ้งสลากเก่าๆที่แปะป้ายไว้ว่า จะถอนตัวหรือจะอยู่ต่อ ตอนนี้คือเวลาที่เราต้องร่วมมือกันในฐานะประเทศที่มีความเข้มแข็งเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวนั้นคือสหราชอาณาจักร" จอห์นสันบอกกับรัฐสภาก่อนลงมติ
"ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ต้องร่วมมือกันและเขียนปฐมบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา หล่อหลอมความเป็นพันธมิตรใหม่กับสหายยุโรปของเรา ยืนตระหง่านอย่างภาคภูมิในเวทีโลก เริ่มต้นเยียวยาบาดแผลตามความปรารถนาของคนทั้งประเทศ" เขากล่าว
ขั้นตอนสุดท้ายของการรับรองจะเกิดขึ้นหลังจากคริสต์มาส โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจะมีเวลาจนถึงวันที่ 9 มกราม สำหรับเห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยข้อตกลงการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Withdrawal Agreement Bill) นั่นเท่ากับว่าพวกเขามีเวลาเหลือเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น ก่อนที่ต้องส่งต่อไปยังวุฒิสภา(สภาขุนนาง) และขอพระบรมราชานุญาต (royal assent) เพื่อตราเป็นพระราชบัญญัติ
หลังจากถอนตัวแล้ว สหราชอาณาจักรยังจำเป็นต้องหาทางบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่กับอียู ซึ่ง จอห์นสัน เคยบอกว่าอยากเห็นประเทศของเขาเห็นพ้องข้อตกลงการค้า โดยที่ไม่ต้องเข้าร่วมในกฎระเบียบต่างๆของอียู
เพื่อให้เส้นตายเบร็กซิตลุล่วง จอห์นสันได้เพิ่มบทบัญญัติหนึ่งเข้าไปในร่างกฎหมายเบร็กซิต ระบุห้ามการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของอังกฤษเกินกว่าเดือนธันวาคม 2020 หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคม 2020 มิเช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย
