เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ระหว่างกระบวนการลงมติถอดถอนครั้งสำคัญในสภาล่างสหรัฐฯที่มีการเริ่มต้นด้วยการอภิปราย ผู้นำสหรัฐฯได้ใช้เวลาในการหาเสียงช่วงค่ำวันพุธ(18 ธ.ค)ที่แบทเทิล ครีก (Battle Creek) รัฐมิชิแกน กล่าวเชิงเยาะเย้ยกับผู้สนับสนุนว่า “ไม่ดูรู้สึกเหมือนว่าพวกเรากำลังถูกโหวตถอดถอน” ด้านประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ประกาศหลังมติการถอดถอนทรัมป์ออกมาว่า เธอต้องการที่จะเห็นกฎการไต่สวนจาก มิตช์ แม็คคอนเนล ผู้นำวุฒิสภาสหรัฐฯก่อนที่จะส่งเรื่องไปให้ทางสภาสูงพิจารณา
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(19 ธ.ค)ว่า ในช่วงเวลาเริ่มต้นของการขึ้นหาเสียงช่วงค่ำวันพุธ(18 ธ.ค)ที่แบทเทิล ครีก (Battle Creek) รัฐมิชิแกน ผู้นำสหรัฐฯแสดงท่าทีไม่สนใจต่อการโหวตลงมติการถอดถอนที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่สภาล่างสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สนับสนุนว่า “ไม่ดูรู้สึกเหมือนว่าพวกเรากำลังถูกโหวตถอดถอน” ก่อนที่ผู้สนับสนุนจะส่งเสียงเชียร์ดังลั่น
และเสริมต่อว่า “ประเทศกำลังไปได้ดีกว่าที่เคย พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด และเรามีแรงสนับสนุนอย่างมหาศาลจากพรรครีพับลิกันอย่างที่พวกเราไม่เคยมีมาก่อน”
ในขณะที่เขากำลังไฮปาร์คบนเวทีอย่างดุเดือด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้จบการอภิปรายที่มียาวนานกว่า 8 ชั่วโมงของ 2 มาตราในการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยสภาล่างสหรัฐฯได้เห็นชอบด้วยเสียง 230-197 ในมาตราแรกคือการใช้อำนาจโดยมิชอบ และในมาตราที่ 2 ที่เห็นชอบด้วยเสียง 229-198 ในความผิดการขัดขวางการทำงานสภาคองเกรสสหรัฐฯ และส่งผลทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ในเวลานี้ถูกถอดถอนอย่างเป็นทางการจะถูกไต่สวนในสภาสูงสหรัฐฯที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ที่คาดกันว่าเขาจะสามารถหลุดพ้นได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม หลังการโหวตลงมติครั้งประวัติศาสตร์ อ้างอิง CNBC สื่อสหรัฐฯ พบว่าประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ได้ออกมาแถลงกับนักข่าวในค่ำวันพุธ(18)ว่า เธออาจจะยังไม่ส่งทั้ง 2 มาตราไปให้กับสภาสูงสหรัฐฯพิจารณาจนกว่าเธอจะได้ให้เห็นกฎเกณของการไต่สวนการถอดถอนจาก มิตช์ แม็คคอนเนล (Mitch McConnell)ผู้นำเสียงข้างมากของสภาสูงสหรัฐฯเสียก่อน
“ทางเรายังไม่สามารถประกาศชื่อของผู้จัดการได้จนกว่าจะได้เห็นกระบวนการในฝั่งสภาสูงก่อน และดิฉันหวังว่ามันจะในเร็ววันนี้ แต่มาจนถึงเวลานี้พวกเรายังไม่เห็นอะไรที่มันดูยุติธรรมต่อพวกเรา” เพโลซีแถลง
CNBC ชี้ว่า ดูเหมือนเพโลซีจะต้องการที่จะพยายามกดดันแม็คคอนเนลที่จะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในกระบวนการถอดถอนหลังจากทางสภาล่างสหรัฐฯได้ส่งเรื่องให้ และยังไม่มีเงื่อนเวลาในการส่งเรื่อง แต่ในการแถลงของเธอ เพโลซีดูเหมือนจะส่งสัญญาณว่าเธอยังต้องการที่จะเก็บเรื่องไว้ก่อนในเวลานี้จนกว่าเพโลซีจะได้รับหลักประกันเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาของสภาสูงสหรัฐฯ
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันคิดว่าจะเป็นการพิจารณาอย่างเป็นธรรม” เธอกล่าวอธิบายเมื่อถูกกดดันจากนักข่าว และเสริมต่อว่า “ผู้นำคนนั้น แม็คคอนเนลได้ชี้ว่า เขาไม่ใช่ลูกขุนที่ไม่ลำเอียงเมื่อเขารับไม้ต่อ (อ้างอิงคำพูด) จากทำเนียบขาว และเขาทำงานไปในแนวทางเดียวกันกับสำนักงานที่ปรึกษาทำเนียบขาว”
ประธานสภาคองเกรสกล่าวไปถึงการให้สัมภาษณ์ของผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ในช่วงต้นสัปดาห์ว่า “เขาไม่ใช่ลูกขุนที่ไม่ลำเอียง”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เมื่อยืนอยู่บนเวที ทรัมป์พยายามที่จะสร้างภาพให้ฐานเสียงตนเองเข้าใจว่า เขาไม่สะทกสะท้านต่อการถูกถอดถอนครั้งนี้
“ผมไม่วิตก ผมไม่วิตกเป็นเพราะมันจะดีเสมอเมื่อคุณไม่ได้ทำอะไรผิดแต่คุณกลับถูกถอดถอน” และกล่าวต่อว่า “สิ่งนี้อาจกลายเป็นประวัติศาสตร์ตลอดไป แต่พวกคุณได้รู้ถึงสิ่งที่พวกเขาทำไหม พวกเขาลดคุณค่ากระบวนการถอดถอนลง และในเวลานี้ เวลานี้ใครก็ตามที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผมหมายถึง พวกเขาอาจมีการโทรศัพท์และอาจถูกถอดถอน”
และบนเวทีทรัมป์ยังกล่าวไปถึง “ริชาร์ด นิกสัน” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯผู้อื้อฉาวที่ต้องยอมลาออกจากตำแหน่งหลังจากมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะถูกสภาคองเกรสทำการถอดถอนออกจากตำแหน่งในคดีวอเตอร์เกต โดยทรัมป์แสดงวาทะว่า “เกี่ยวกับ ริชาร์ด นิกสัน ผมเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด” และเสริมต่อว่า “ผมไม่รู้เกี่ยวกับคุณ แต่ผมกำลังมีช่วงเวลาที่ดี ผมไม่รู้สึกวิตก”