เอเจนซีส์/mgrออนไลน์ – ก่อนหน้าการลงมติถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯของสภาล่างสหรัฐฯพบว่าในวันอังคาร(17 ธ.ค)ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งจดหมายจำนวน 6 หน้าให้ประธานสภาคองเกรส แนนซี เพโลซี ที่มีเนื้อหาดุเดือดประณามถึงการลงมติถอดถอนว่าเป็นเสมือนการไต่สวนล่าแม่มดซาเลม ด้านรูดี้ จูลิอานี ทนายความส่วนตัวรับพยายามปลดอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเครนเพื่อหาทางสอบโจ ไบเดนจริง
หนังสือพิมพ์สตาร์ทริบูนรายงานเมื่อวานนี้(17 ธ.ค)ว่า พรรคเดโมแครตตั้งใจอย่างแรงกล้าในการรวบรวมเสียงโหวตสำหรับการลงมติถอดถอนผู้นำสหรัฐฯของสภาล่างสหรัฐฯวันพุธ(17) อ้างอิงจากบีบีซี สื่อสหรัฐฯใน 2 ข้อหาคือ (1)ขัดขวางการทำงานสภาคองเกรส ด้วยการปฎิเสธที่จะให้ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวน ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเข้าให้ปากคำ และเก็บงำหลักฐานและเอกสารไว้ และ (2) การใช้อำนาจโดยมิชอบ ด้วยความพยายามที่จะใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯเพื่อกดดันยูเครนให้ทำการสอบสวนคู่แข่งทางการเมืองพรรคเดโมแครต โจ ไบเดน
ซึ่งหากว่าการโหวตเกิดขึ้นจริงในวันนี้(18)และเป็นไปตามตามแนวทางพรรค จะทำให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯคนที่ 3 ของประเทศที่จะถูกถอดถอน ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าคืออดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ที่รอดตายราวปาฎิหารย์ และอดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน นั้นชิงลาออกจากตำแหน่งสำหรับคดีวอเตอร์เกตที่อื้อฉาว
และหลังจากสภาล่างสหรัฐฯแล้ว ทรัมป์จะถูกส่งเข้าสภาสูงสหรัฐฯซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดการลงมติในเดือนหน้า
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า ในวันอังคาร(17) ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ รูดี้ จูลิอานี ได้ออกมายืนยันว่า เขาทำงานเพื่อที่จะทำให้อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเครน มารี โยวาโนวิตช์(Marie Yovanovitch) ถูกปลดออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางสำหรับการสอบสวนที่จะสามารถเป็นคุณทางการเมืองให้กับทรัมป์ได้
จูลิอานีได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ***เขาได้ส่งข้อมูลให้กับทรัมป์ราว 2 ครั้งเกี่ยวกับการที่โยวาโนวิตช์ขวางทางการสอบสวนที่อาจเกิดขึ้น***
“ผมจำเป็นต้องให้โยวาโนวิตช์ออกไป” จูลิอานีกล่าวต่อนิตยสารนิวยอร์กเกอร์
CNN และหนังสือพิมพ์สตาร์ทริบูนรายงานว่า ทรัมป์ในวันอังคาร(17) ส่งจดหมายจำนวน 6 หน้าไปให้กับประธานสภาคองเกรส แนนซี เพโลซี ที่มีเนื้อหาดุเดือดกล่าวหาการถอดถอนครั้งนี้ว่า เป็นเสมือนการทำสงครามครูเสดต่อตัวเขา และฝ่ายพรรคเดโมแครตจะต้องเสียใจเมื่อเวลาที่มีการเลือกตั้งในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า
ซึ่งผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า พรรคเดโมแครตเป็นโรค “Trump derangement syndrome” โดยยังติดอยู่กับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2016 “พวกคุณเป็นคนที่นำความเจ็บปวดและทรมานมาสู่สาธารณรัฐของพวกเราด้วยความเห็นแก่ตัวของพวกคุณเองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง” ทรัมป์กล่าว
ในจดหมายที่เต็มไปด้วยสิ่งที่เท็จและการกล่าวเกินจริง ทรัมป์ได้ชี้ไปถึงกระบวนการว่าเป็นเสมือนการไต่สวนคดีล่าแม่มดในซาเลม
ในจดหมายวันอังคาร(17)ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า “ไม่มีคนฉลาดคนใดที่จะเชื่อในสิ่งที่คุณพูด” และเสริมต่อว่า “ประวัติศาสตร์จะตัดสินคุณอย่างรุนแรงในระหว่างที่คุณดำเนินกระบวนการถอดถอนที่น่าขบขันนี้”
CNN ชี้ว่าในช่วงค่ำวันอังคาร(17) เพโลซีได้แสดงความเห็นว่า เธอกำลังอยู่ในระหว่างการทำงาน และได้เห็นแค่ส่วนสำคัญในจดหมายของทรัมป์เท่านั้น “มันน่าขยะแขยงมาก” เธอกล่าว
ทั้งนี้อ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิดพบว่า ผู้นำสหรัฐฯและผู้ช่วยของเขาได้ร่วมกันร่างจดหมายฉบับนี้มาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในวันอังคาร(17) ทั้งแผนการและเนื้อหาของจดหมายถูกเก็บเป็นความลับเฉพาะในส่วนปีกตะวันตกทำเนียบขาวที่ทำงานของทรัมป์เท่านั้น
เพโลซีได้กล่าวถึงการลงมติการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพุธ(18)ผ่านแถลงการณ์การประกาศการลงมติถอดถอนว่า สภาล่างสหรัฐฯจะใช้หนึ่งในอำนาจอย่างเป็นทางการสูงสุดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ “ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ เราต้องทำตามคำสาบานที่ได้ให้ไว้ในการสนับสนุนและปกป้องกฎหมายรัฐธรรมนูญของพวเราจากศัตรูทั้งปวง ทั้งจากต่างชาติและภายใน” เธอเสริม
บีบีซีรายงานว่าในช่วงค่ำวันอังคาร(17) มีการประท้วงสนับสนุนการถอดถอนเกิดขึ้นทั่วสหรัฐฯ รวมไปถึง บอสตัน นิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส
และพบว่าแฮชแท็ก #ไม่อยู่เหนือกฎหมาย และ #ถอดถอน กระหึ่มไปทั่วทั้งทวิตเตอร์