xs
xsm
sm
md
lg

จีน-รัสเซียเสนอร่างมติ UN คลายคว่ำบาตรโสมแดง สหรัฐฯ โต้ ‘ยังไม่ถึงเวลา’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - จีนและรัสเซียยื่นร่างมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวานนี้ (16 ธ.ค.) เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งห้ามสินค้าส่งออกสำคัญๆ ของเกาหลีเหนือ เช่น รูปปั้น, อาหารทะเล และสิ่งทอ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสนับสนุนการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับโสมแดง

ร่างมติดังกล่าวยังกำหนดให้ยกเลิกคำสั่งห้ามพลเมืองเกาหลีเหนือทำงานในต่างแดน และยกเลิกข้อกำหนดปี 2017 ที่ให้ส่งตัวแรงงานโสมแดงกลับประเทศภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังให้โครงการก่อสร้างทางรถไฟและถนนเชื่อมสองเกาหลีได้รับยกเว้นจากมาตรการคว่ำบาตรด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นทั้ง 15 ชาติจะทำการโหวตร่างมติดังกล่าวเมื่อใด โดยร่างมติจะผ่านได้นั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ และต้องไม่มีการ ‘วีโต’ จาก 5 รัฐสมาชิกถาวร ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย และจีน

วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ระบุว่า นี่ไม่ใช่การรีบร้อน และมาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียและจีนเสนอให้ยกเลิกนั้นก็ “ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะพิจารณาผ่อนปรนคว่ำบาตรให้เกาหลีเหนือ เนื่องจากเปียงยาง “ขู่จะกระทำการยั่วยุให้หนักขึ้น ปฏิเสธที่จะพบปะเพื่อเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ และยังเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูงและขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างต่อเนื่อง”

อุตสาหกรรมที่จีนและรัสเซียขอให้ผ่อนคลายคว่ำบาตรนั้นเคยสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือปีละหลายร้อยล้านดอลลาร์ ก่อนจะถูกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นสั่งคว่ำบาตรในปี 2016 และ 2017 เพื่อปิดกั้นแหล่งทุนที่โสมแดงจะนำไปใช้พัฒนาอาวุธร้ายแรง

สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ยืนกรานว่ายูเอ็นไม่ควรที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

เนเบนเซีย ย้ำว่า ร่างมติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ “นั่นคือไอเดียทั้งหมด เราไม่ได้ทำร่างมตินี้ขึ้นมาด้วยเจตนาร้าย แต่เราอยากจะช่วยจริงๆ”

ร่างมติฉบับนี้เอ่ยชื่นชม “ความพยายามเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือในทุกระดับ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างทั้ง 2 ชาติ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และสร้างเสถียรภาพที่มั่นคงและยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี” ตลอดจนเรียกร้องให้มีการฟื้นเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งได้แก่ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ จีน สหรัฐฯ รัสเซีย และญี่ปุ่น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสันติและครอบคลุม

จีนและรัสเซียเรียกร้องมานานให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหยิบยื่นรางวัลแก่เกาหลีเหนือบ้าง หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน รับปากเมื่อปี 2018 ว่าจะทำงานเพื่อมุ่งไปสู่การปลดนุก

เกาหลีเหนือนั้นขึ้นชื่อว่ามีฝีมือในการสร้างอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่สไตล์สังคมนิยม ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังกลุ่มประเทศแอฟริกา นักวิเคราะห์เชื่อว่าสินค้าประเภทนี้ทำเงินให้กับรัฐบาลโสมแดงนับสิบๆ ล้านดอลลาร์

สินค้าประมงก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินของเกาหลีเหนือ โดยนักการทูตยูเอ็นเคยให้ข้อมูลไว้เมื่อปี 2017 ว่า โสมแดงมีรายได้จากการส่งออกอาหารทะเลราว 295 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนั้น

ผลิตภัณฑ์สิ่งทอถือเป็นสินค้าออกที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของเกาหลีเหนือรองจากถ่านหินและแร่ธาตุต่างๆ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งเกาหลี (KOTRA) ระบุว่าสร้างรายได้มากถึง 752 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016

สิ่งทอโสมแดงเกือบ 80% จะถูกส่งไปขายในจีน

ค่าแรงคนงานเกาหลีเหนือในต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้สกุลเงินแข็งที่สำคัญของรัฐบาลเปียงยาง โดยผู้ตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนยูเอ็นรายงานเมื่อปี 2015 ว่า เกาหลีเหนือบังคับส่งพลเมืองกว่า 50,000 คนไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะรัสเซียและจีน ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้แก่รัฐประมาณ 1,200-2,300 ล้านดอลลาร์ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น