รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีจิโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ยักไหล่ต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่กล่าวหาว่าเขากำลังหาทางสร้างราชวงศ์ทางการเมือง(political dynasty) หลังลูกชายและลูกเขยเตรียมลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นในปีหน้า
เมื่อครั้งที่ วิโดโด ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกปี 2014 อดีตเซลล์แมนขายเฟอร์นิเจอร์และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเล็กๆรายนี้ได้เสนอตัดขาดตัวเองจากกองทัพและชนชั้นสูงทางการเมืองที่ยึดติดกับอำนาจนับตั้งแต่การล้มสลายของจอมเผด็จการซูฮาร์โต ในปี 1998
วิโดโด ซึ่งเพิ่งเริ่มวาระการดำรงตำแหน่งสมัย 2 เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ถูกพวกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับนายกิบราน ราคาบูมิง รากา ลูกชายคนโตของเขา ซึ่งเดินตามรอยเท้าของผู้เป็นพ่อด้วยการลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองโซโลบนเกาะชวา และนายบ็อบบี้ นาซูเตีน ลูกเขยของเขา ที่ลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา
"มันคือการแข่งขัน คุณสามารถแพ้หรือชนะในการแข่งขัน มันขึ้นอยู่กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือก" วิโดโด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี(12ธ.ค.)
ลูกชายของเขาได้รับการสนับสนุนจากพรรคพรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซีย-การต่อสู้ (PDI-P) ของวิโดโด แต่ประธานาธิบดีนี้บอกว่าการลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเป็นการตัดสินใจของ รากา คนเดียวล้วนๆ
บ่อยครั้งที่ครอบครัวของนักการเมืองมักมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในแวดวงการเมืองของอินโดนีเซีย ในนั้นรวมถึงครอบครัวของ ซูการ์โน ผู้ก่อตั้งประเทศและประธานาธิบดีคนแรก ซึ่งยังคงเป็นกำลังหลักในการเมืองของอินโดนีเซีย
เมกาวาตี ซูการ์โนปูตรี ลูกสาวของซูาการ์โน เคยได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 5 ของประเทศและ ปูอาน มหารานี ลูกสาวของซูการ์โนปูตรี ประธานพรรค PDI-P ในปัจจุบัน ก็ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา
อาเรีย บิมา นักการเมืองของพรรค PDI-P บอกกับรอยเตอร์ว่าเขาไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไรที่ครอบครัวของวิโดโดจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งทางการเมือง "ตราบใดที่ความสามารถส่วนบุคคล, ความสามารถทางสังคม และความเป็นมืออาชีพ มาพร้อมกับอุดมการณ์ที่ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่ระบอบคณาธิปไตยแต่อย่างใด"
อย่างไรก็ตาม ติตี ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมเลือกตั้งและประชาธิปไตย ซึ่งเป็นหน่วยเฝ้าระวังการเลือกตั้ง มองว่าการที่ครอบครัวของวิโดโดก้าวเข้าสู่แวดวงทางการเมือง เสี่ยงที่จะทำชื่อเสียงของเขาต้องแปดเปื้อน