รอยเตอร์ - เกิดเหตุระเบิดภายในสวนสาธารณะซึ่งเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์แห่งชาติ (Monas) ใจกลางกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ธ.ค.) ส่งผลให้ทหารบาดเจ็บอย่างน้อย 2 นาย โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากระเบิดควัน
จุดที่เกิดระเบิดอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบประธานาธิบดี โดยโฆษกของประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ยืนยันว่า ผู้นำอิเหนาไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบขณะเกิดเหตุ
ล่าสุดยังคงไม่ชัดเจนว่า เหตุระเบิดใจกลางเมืองหลวงครั้งนี้เป็นการโจมตีซึ่งเกิดจากความแตกแยกระหว่างฝักฝ่ายหรือไม่ ทว่าอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกเคยเผชิญเหตุความไม่สงบจากกลุ่มหัวรุนแรงมาแล้วหลายระลอกในช่วงไม่กี่ปีมานี้
กาต็อต เอ็ดดี้ ปราโมโน ผู้บัญชาการตำรวจจาการ์ตา แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุระเบิดภายในสวนสาธารณะน่าจะเกิดจากระเบิดควัน (smoke grenade) ส่วนทหารผู้บาดเจ็บ 2 นายถูกนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เอโก มาร์กีโยโน ผู้บัญชาการทหารประจำกรุงจาการ์ตา ชี้แจงว่าทหารทั้ง 2 นายได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด ขณะที่ออกกำลังกายอยู่ภายในสวนสาธารณะ
สำหรับคำถามที่ว่าเป็นเหตุโจมตีหรือไม่นั้น ปราโมโน ตอบว่า “ยังไม่สามารถสรุปได้ และเรากำลังสืบสวนอยู่”
ก่อนหน้านั้น อาร์โก ยูโวโน โฆษกตำรวจจาการ์ตา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Kompas TV เพียงคร่าวๆ ว่า “มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น และเรากำลังตรวจสอบว่าเกิดจากแหล่งใด ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว”
เดือนที่แล้วเพิ่งจะเกิดเหตุนักศึกษาวัย 24 ปี กดระเบิดฆ่าตัวตายที่หน้าสถานีตำรวจในเมืองเมดาน (Medan) บนเกาะสุมาตรา ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บไปอีก 6 คน
เจ้าหน้าที่อิเหนาระบุว่า เหตุระเบิดที่เมดานมีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม ญะมาอะห์ อันซอรุตเดาละห์ (JAD) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และเคยก่อเหตุโจมตีมาแล้วหลายแห่งทั่วอินโดนีเซีย
เดือนที่แล้ว สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายไอเอส 2 คนได้บุกใช้มีดจ้วงแทงนายวิรันโต รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง ซึ่งเคราะห์ดีที่เขารอดชีวิตมาได้ แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ประธานาธิบดี วิโดโด ต้องสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
