เอเอฟพี - หัวเว่ย ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของจีนในวันพุธ(11ธ.ค.) ชนะประมูลได้รับเลือกเป็นผู้วางโครงสร้างพื้นฐาน 5G ในเยอรมนี แต่ข้อตกลงที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองนี้ยังต้องรอการเห็นชอบจากรัฐบาล หลังพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการสอดแนม
เทเลโฟนิกา เยอรมนี ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก ดอยช์ เทเลคอม เผยว่าพวกเขาตัดสินใจให้ หัวเว่ยของจีนและโนเกียของฟินแลนด์ มีบทบาทอย่างเท่าเทียมในโครงการนี้ โดยเรียกทั้ง 2 บริษัทว่าเป็น "พันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ"
"ความร่วมมือนี้จะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการรับรองความปลอดภัยของเทคโนโลยี และบริษัททั้งสองต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบทางกฎหมายในเยอรมนี" เทเลโฟนิกา เยอรมนี ระบุ
บริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ เทเลโฟนิกา ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสัญชาติสเปน บอกต่อว่า "ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองบริษัทต้องตอบสนองต่อกระบวนการทางการเมืองที่กำลังดำเนินการอยู่ ด้วยต้องกำหนดกรอบแนวทางด้านความมั่นคงโดยไม่ให้การเริ่มเปิดตัวโครงข่าย5Gต้องล่าช้า"
เทเลโฟนิกา เยอรมนี บอกว่าพวกเขาจะเริ่มอัพเกรด 5G ในปีหน้าและหวังปล่อยสัญญาณป้อนเมืองต่างๆ 30 แห่งภายในปี 2022
สหรัฐฯและมหาอำนาจอื่นๆ ส่งเสียงแสดงความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจใช้หัวเว่ยในการสอดแนม คำกล่าวหาที่ทางบริษัทปฏิเสธอย่างหนักแน่น
จนถึงบัดนี้ เยอรมนี ขัดขืนแรงกดดันที่ต้องการให้กีดกันหัวเว่ยจากการเข้าร่วมในขั้นตอนการประมูล โดยยืนยันว่าพวกเขาจะวางเงื่อนไขด้านความมั่นคงอย่างเคร่งครัดที่สุดแทน
อย่างไรก็ตามพวกนักวิจารณ์กล่าวหาเยอรมนีว่าพยายามพะเน้าพะนอจีน พันธมิตรการค้าใหญ่ที่สุดของพวกเขา และวางผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อเดือนที่แล้ว ปีเตอร์ อัลท์เมเออร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี กระพือความขุ่นเคืองจากสหรัฐฯ โดยลากเอาคำกล่าวหาจีนจารกรรมข้อมูลกับการสอดแนมของสหรัฐฯมาเป็นส่วนหนึ่งของประเด็นโต้เถียง
อัลท์เมเออร์ ได้พาดพิงกรณีที่มีคำกล่าวหาว่าสหรัฐฯสอดแนมในแผ่นดินเยอรมนีเมื่อปี 2013 พร้อมกับบอกว่า "ถึงขนาดนั้น เราก็ไม่ได้บอตคอตต์พวกเขา"
ความเห็นดังกล่าวกระตุ้นให้ ริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯออกมาตอบโต้ โดยระบุว่าในทางศีลธรรมของจีนเทียบไม่ได้กับสหรัฐฯ