‘จีน’ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเฝ้าติดตาม ‘ม้าป่า’

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)

China uses sat technology to track wild horses
By Dave Makichuk
03/12/2019

ด้วยปลอกคอไฮเทค ศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัยม้าป่าในซินเจียง เขตปกครองตนเองระดับเทียบเท่ามณฑลของจีน ก็สามารถเฝ้าติดตามกิจกรรมประจำวันของฝูงม้าป่าเพรเชอวาลสกี ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนใกล้สูญพันธุ์ จากระยะไกลได้

ศูนย์กลางการเพาะพันธุ์และวิจัยม้าป่า (Wild Horse Breeding and Research Center) ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง (Xinjiang Uyghur Autonomous Region) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน กำลังใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการเฝ้าติดตามประชากรม้า เพรเชอวาลสกี (Przewalski’s horse) ฝูงใหญ่ที่สุดซึ่งมีอยู่ในประเทศจีน หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการนำเอาม้าใกล้สูญพันธุ์เหล่านี้กลับคืนสู่ถิ่นฐานตามธรรมชาติของพวกมัน โดยจากตอนเริ่มต้นที่ม้าฝูงนี้มีอยู่ 6 ตัว ในเวลานี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 19 ตัวแล้ว หลังจากเวลาผ่านไป 1 ทศวรรษเศษๆ

ทางเจ้าหน้าที่ได้สวมปลอกคอด้วยความประจงระมัดระวังให้แก่ม้าเพศเมียที่ถูกตั้งชื่อรหัสว่า จุงการ์ หมายเลข 213 (Junggar No.213) และมีฉายาว่าเป็น “ราชินี” (Queen) เพื่อช่วยให้สามารถเฝ้าติดตามม้าป่าเหล่านี้จากระยะไกล โดยปลอกคอนี้ทำหน้าที่ถ่ายภาพวิดีโอ และสามารถสั่งปลดออกได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งนี้ตามรายงานของโกลบอลไทมส์ (Global Times)

ม้า เพรเชอวาลสกี หนึ่งในสัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สุดของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “สายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองชั้น 1” (Class 1 Protected Species ) สายพันธุ์หนึ่งในประเทศจีน และได้รับการจัดระดับว่า “ใกล้สูญพันธุ์” (endangered) โดย กลุ่มปฏิบัติงานจัดทำรายชื่อสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามระดับสีแดง (Red List of Threatened Species Working Group) สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการพิทักษ์คุ้มครองธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature ใช้อักษรย่อว่า IUCN)

ประมาณการกันว่ามีม้าพันธุ์นี้เหลืออยู่เพียง 2,000 ตัวในโลกเวลานี้ โดยที่ราว 600 ตัวอยู่ในจีน ส่วนที่เหลืออาศัยอยู่ในสหรัฐฯและประเทศยุโรปตะวันตกบางประเทศ

เนื่องจากกิจกรรมประจำวันต่างๆ ของประชากรม้าเพรเชอวาลสกี จะถูกตัดสินโดยม้าตัวจ่าฝูง การเฝ้าตามชีวิตประจำวันวันของม้าตัวนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดในการติดตามกิจกรรมของม้าป่าทั้งฝูง รายงานของโกลบอลไทมส์บอก

ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากปลอกคอติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม แสดงให้เห็นว่า พื้นที่กิจกรรมของม้าเพรเชอวาลสกี มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลต่างๆ

ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เป็นเครื่องอ้างอิงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์สำหรับการปล่อยม้าเพรเชอวาลสกีกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อๆ ไปในอนาคต รวมทั้งเป็นพื้นฐานอันสำคัญสำหรับการคัดเลือกจุดสำหรับการปล่อย ศูนย์เพาะพันธุ์ในซินเจียงระบุ

ประทศจีนได้นำม้าเพรเชอวาลสกีเข้ามาจากพวกประเทศยุโรปและสหรัฐฯรวม 24 ตัวนับตั้งแต่ปี 1985 หลังจากที่ม้าพันธุ์นี้ซึ่งดั้งเดิมเริ่มแรกอยู่ในซินเจียง ได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 1970 ภายหลังที่ถูกไล่ล่าต้อนจับอย่างหนักหน่วงก่อนหน้านั้นจากบางประเทศยุโรป เป็นต้นว่า เยอรมนี, ฝรั่งเศส, และสหราชอาณาจักร

ภายหลังใช้เวลาเพาะพันธุ์อยู่ราว 3 ทศวรรษ ม้าเพรเชอวาลสกีรวม 110 ตัว จากฝูงต่างๆ 16 ฝูง ก็ได้รับการปล่อยคืนส่ะรรมชาติแล้ว ตั้งแต่ที่จีนเริ่มต้นดำเนินการในเรื่องนี้เมื่อเดือนสิงหาคม 2001