เอเจนซีส์ - ตำรวจอังกฤษเปิดเผยชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุไล่แทงเหยื่อเสียชีวิต 2 รายในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) พบเคยต้องคดีก่อการร้ายมาก่อน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อปีที่แล้ว
อุสมาน ข่าน (Usman Khan) วัย 28 ปี ซึ่งติดเข็มขัดระเบิดปลอมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ หลังก่อเหตุทำร้ายผู้คนใกล้กับสะพานลอนดอนบริดจ์ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจถือเป็นคดีก่อการร้าย และยังไม่ระบุตัวผู้ต้องสงสัยอื่นๆ
“บุคคลคนนี้เป็นที่รู้จักของทางการ และเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีก่อการร้ายเมื่อปี 2012” นีล บาซู ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามก่อการร้าย ระบุในถ้อยแถลง “เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วโดยมีเงื่อนไขคุมประพฤติ และแน่นอนว่าคำถามสำคัญก็คือ เขาลุกขึ้นมาก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ได้อย่างไร”
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติไปตลอดจนกว่าจะพ้นโทษ ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานว่า ข่าน ยินยอมที่จะถูกสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์
ชายคนนี้ใช้มีดไล่ทำร้ายผู้คนเมื่อเวลาราว 14.00 น. โดยพุ่งเป้าไปที่คนเดินเท้าแถวๆ อาคาร Fishmongers’ Hall ใกล้สะพานลอนดอนบริดจ์ ซึ่งบริเวณนี้เคยเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์มาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
นอกจากผู้เสียชีวิตที่เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งแล้ว ยังมีชายอีก 1 คนและหญิง 2 คนได้รับบาดเจ็บ และยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
จากคลิปวิดีโอที่มีผู้บันทึกเอาไว้ได้พบว่ามีพลเมืองดีหลายคนพยายามเข้าล็อคตัวคนร้ายและกดลงกับพื้นก่อนที่ตำรวจจะมาถึง
ก่อนที่ตำรวจจะเผยประวัติอาชญากรรมของมืดมีดรายนี้ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษซึ่งกำลังเตรียมลงสู้ศึกเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ก่ออาชญากรรมต้องรับโทษจำคุกเต็มเวลาโดยไม่มีการผ่อนผัน
“การปล่อยตัวอาชญากรที่ก่อคดีร้ายแรงออกจากคุกก่อนกำหนดถือเป็นข้อผิดพลาด จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยกเลิกแนวปฏิบัตินี้ และบังคับใช้บทลงโทษที่เหมาะสมสำหรับอาชญากรที่เป็นบุคคลอันตราย โดยเฉพาะผู้ก่อการร้าย” จอห์นสัน กล่าว
ระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2017 กลุ่มติดอาวุธ 3 คนได้ขับรถตู้ไล่ชนคนเดินเท้าบนสะพานลอนดอนบริดจ์ และยังใช้มีดไล่แทงเหยื่อในบริเวณนั้นจนมีคนตายถึง 8 ศพ บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 48 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการปรับลดงบประมาณและกำลังตำรวจหลังจากที่ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศในปี 2010