รอยเตอร์ - อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ในวันพธ(27พ.ย.) ปฏิเสธต่อการแทรกแซงใดๆ แต่พร้อมสำหรับความร่วมมือ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขากำลังดำเนินการกำหนดให้แก๊งค้ายาเสพติดทั้งหลายในเม็กซิโกเป็น "องค์กรก่อการร้าย"
โลเปซ โอบราดอร์ บอกว่าเม็กซิโกจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา หลังวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(28พ.ย.) และบอกว่าเขาได้ขอให้รัฐมนตรรีต่างประเทศของเขาเป็นแกนนำในการพูดคุย "ถ้าควรร่วมมือนะได้ แต่การแทรกแซง ขอบาย" ผู้นำเม็กซิโกกล่าวระหว่างแถลงข่าวในตอนเช้าวันพุธ(27พ.ย.) หลังถูกถามเกี่ยวกับความเห็นของทรัมป์
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ พูดระหว่างให้สัมภาษณ์กับ บิล โอริลลี อดีตพิธีกรข่าวฟ็อกซ์นิวส์ในวันอังคาร(26พ.ย.) ว่าแก๊งต่างๆจะถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อารร้าย พร้อมระบุว่าเขาใช้เวลาเตรียมการในเรื่องนี้มาแล้วกว่า 90 วัน
กลุ่มอนุรักษ์นิยมต่างๆส่งเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทางการกำหนดให้แก๊งค้ายาเสพติดต่างๆในเม็กซิโกเป็นกลุ่มก่อารร้าย หลังจากเกิดเหตุพลเมืองอเมริกัน 9 คนที่ถือสัญชาติเม็กซิโกเป็นสัญชาติที่ 2 ถูกแก๊งยาเสพติดสังหารในเม็กซิโกเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาร์เซโล เอ็บราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกให้ความเห็นว่าการขึ้นบัญชีดำภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ อาจเป็นการเปิดทางให้อเมริกาสามารถจัดการได้โดยตรงต่อภัยคุกคามจากแก๊งค้ายาเหล่านี้ หากจำเป็นต้องลงมือ
ข้อความที่โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ในวันพุธ(27พ.ย.) เอ็บราร์ด บอกว่าเขาพร้อมติดต่อประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แต่บอกว่าความพยายามของเขาจะมุ่งเน้นไปที่การปกป้องอำนาจอธิปไตยของเม็กซิโก
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ใส่ชื่อองค์กรนับสิบแห่งเข้าไปในบัญชีดำกลุ่มก่อการร้ายของพวกเขา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอิสลามิสต์, พวกแบ่งแยกดินแดนหรือพวกก่อความไม่สงบมาร์กซิสต์ ส่วนในละตินอะเมริกา กองโจรฝ่ายซ้ายและกองกำลังกึ่งทหารฝ่ายขวาของโคลอมเบีย ซึ่งต่างเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสติด ในอดีตก็เคยปรากฏชื่ออยู่ในบัญชีดำทั้งคู่
ภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ เมื่อกลุ่มใดๆถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย จะเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากบุคคลใดๆในสหรัฐฯให้การสนับสนุนกลุ่มเหล่านี้ และสมาชิกของกลุ่มนั้นๆจะไม่สามารถเดินทางเข้าอเมริกาและอาจถูกเนรเทศออกนอกประเทศ
พวกผู้เชี่ยวชาญคาดเดาว่าการยกระดับกดดันแก๊งยาเสพติดเม็กซิโกของทรัมป์ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 เป็นการสะท้อนแนวทางของเขาก่อนหน้านี้ที่เคยใช้คำขู่รีดภาษีโน้มน้าวให้เม็กซิโกดำเนินการปราบปรามคนเข้าเมืองผิดกฎหมายมาแล้ว
