คองเกรสเห็นชอบโดยสมบูรณ์ร่าง กม.หนุนสิทธิมนุษยชนฮ่องกง ลุ้นวัดใจทรัมป์วีโต้หรือไม่

รอยเตอร์ - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติในวันพุธ (20 พ.ย.) ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีเจตนาสนับสนุนสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง โดยกำหนดให้ทำการทบทวนสถานะพิเศษทางเศรษฐกิจของเมืองแห่งนี้ทุกๆปี ท่ามกลางการปราบปรามขบวนการประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยในศูนย์กลางทางการเงินอันสำคัญแห่งนี้

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติอย่างท่วมท้น 417 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) และจากนี้จะส่งต่อไปยังทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายหรือใช้สิทธิวีโต้ หลังจากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ไปก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (19 พ.ย.) ขณะที่ผู้นำรายนี้ไม่เคยพูดอย่างชัดเจนว่าจะลงนามบังคับใช้หรือไม่

นอกจากนี้แล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังได้ผ่านร่างกฎหมายอีกฉบับซึ่งกำหนดห้ามการส่งออกอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนบางประเภทให้แก่ตำรวจฮ่องกง เช่น แก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย กระสุนยาง และปืนช็อตไฟฟ้า (stun guns) เป็นต้น หลังจากมันผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภามาแล้วเช่นกัน

ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงฉบับวุฒิสภา กำหนดให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องส่งรายงานยืนยันสถานะการปกครองตนเองของฮ่องกงเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ยังคงได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ ต่อไป และยังเปิดทางสำหรับกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งพัวพันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงด้วย

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การที่ร่างกฎหมายฮ่องกงได้รับไฟเขียวอย่างเป็นเอกฉันท์จากวุฒิสภาน่าจะทำให้ ทรัมป์ ใช้สิทธิ ‘วีโต’ ได้ยากขึ้น และหากร่างกฎหมายถูกส่งไปถึงโต๊ะทำงานของทรัมป์ ก็คาดว่าจะมีการอภิปรายถกเถียงขนานใหญ่ในหมู่ผู้ช่วยประธานาธิบดี ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่กังวลว่ามันจะเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อตกลงการค้ากับจีน และฝ่ายที่เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯ จะต้องลุกขึ้นต่อต้านปักกิ่งในประเด็นสิทธิมนุษยชนและสถานะของฮ่องกง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) รัฐบาลจีนได้ออกมาประณามการผ่านร่างกฎหมายปกป้องสิทธิมนุษยชนฮ่องกงของวุฒิสภาสหรัฐฯ และขู่จะมีมาตรการตอบโต้อย่างแข็งขัน เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ

เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน วิจารณ์สหรัฐฯ ว่า “ละเลยข้อเท็จจริงและความเป็นจริง ใช้สองมาตรฐาน แทรกแซงกิจการในฮ่องกงและกิจการภายในอื่นๆ ของจีนอย่างชัดเจน” พร้อมชี้ว่า พฤติกรรมของอเมริกาเข้าข่าย “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักการพื้นฐานของการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจีนขอประณามและคัดค้าน”

โฆษกจีนผู้นี้เรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดแทรกแซงกิจการในฮ่องกงและกิจการภายในอื่นๆ ของจีน ไม่เช่นนั้น “ก็จะได้รับผลอันเลวร้ายตอบสนอง”