xs
xsm
sm
md
lg

เป็นทางการ! สหรัฐฯ ยืนยันอนุมัติต่อใบอนุญาต “หัวเว่ย” อีก 90 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) อนุมัติต่อใบอนุญาตให้บริษัทอเมริกันสามารถทำธุรกิจกับหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนต่ออีก 90 วัน ระบุเพื่อให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นยังคงสามารถให้บริการเครือข่ายสื่อสารในพื้นที่ชนบทได้

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารประกาศภาวะฉุกเฉิน แบนหัวเว่ยออกจากเครือข่ายโทรคมนาคมของอเมริกา หลังวอชิงตันพบว่าบริษัทแห่งนี้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่กำหนดเล่นงานอิหร่านและพยายามขัดขวางการสืบสวนในเวลาต่อมา

วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่าการขยายเวลาอีกครั้งในคราวนี้ หลังจากเคยต่อใบอนุญาตมาแล้วหนหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม "จะช่วยให้พวกผู้บริการยังคงสามารถใช้บริการแก่ลูกค้าในบางพื้นที่ที่ห่างไกลมากๆของสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นแล้วคนเหล่านี้จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก"

“กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสังเกตการณ์อย่างเคร่งครียดต่อการส่งออกเทคโนโลยีที่อ่อนไหว เพื่อรับประกันว่านวัตกรรมของเราจะไม่ถูกใช้ประโยชน์โดยพวกที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของเรา” รอสส์กล่าว

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังอ้างด้วยว่าหัวเว่ยเป็นเครืองมือในการโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกของปักกิ่ง ทำให้อุปกรณ์ของบริษัทแห่งนี้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ คำกล่าวหาที่ทางบริษัทปฏิเสธมาตลอด

เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ลูกสาวผ้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท ถูกจับกุมในแคนาดาเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้กำลังต่อสู้คำร้องส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ตามข้อกล่าวหาฉ้อโกงและสมคบคิดหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ประเด็นของหัวเว่ยยังถูกโยนเข้าสู่แก่นกลางข้อพิพาททางการค้าระหว่างทรัมป์กับจีนอย่างเต็มตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่าทั้งสองเรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน และพฤติกรรมของหัวเว่ยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและความมั่นคงแห่งชาติ แต่ต่อมาทรัมป์บ่งชี้ว่าทางออกของสงครามการค้าจะเกี่ยวข้องกับความเห็นพ้องต้องกันบางอย่างในประเด็นหัวเว่ย

หลังการเจรจาทางการค้าที่เกือบพังครืนลงเมื่อเดือนพฤษภาคม สหรัฐฯ เพิ่มชื่อหัวเว่ยเข้าไปในบัญชีดำบริษัทต่างๆที่ห้ามซื้อเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หากไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากรัฐบาลอเมริกา

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นบรรดาบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทรัมป์จึงได้มีการปรับแก้ข้อจำกัด เป็นอนุญาตให้มีการทำธุรกรรมต่างๆ “อย่างเจาะจงและแบจำกัด” อันเกี่ยวข้องกับการส่งออกและส่งสินค้ากลับ
กำลังโหลดความคิดเห็น