เอเจนซีส์ - ยอดขายของ “อาลีบาบา” ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจีน ในงานช็อปปิ้ง 24 ชั่วโมงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัน (จันทร์) ที่ 11 เดือน 11 ซึ่งเรียกขานกันว่า “วันคนโสด” สามารถพุ่งทะลุหลัก 1,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 68 วินาที และผ่านหลัก 30,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 16 ชั่วโมงครึ่ง จ่อทุบสถิติของปีที่แล้วซึ่งทำได้ 30,700 ล้านดอลลาร์ ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่า อัตราเติบโตของยอดขายปีนี้ ซึ่งเป็นการจัดงานปีที่ 11 น่าจะแผ่วลงตามภาวะของเศรษฐกิจแดนมังกรโดยรวม
ตัวเลข 30,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับกว่า 80% ของยอดขายออนไลน์ที่แอมะซอน บริษัทอี-คอมเมิร์ซของอเมริกาทำได้ในไตรมาสล่าสุด หรือเกือบเท่ากับยอดขายตลอดทั้งวันในวันคนโสดของอาลีบาบาเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า อัตราเติบโตของยอดขายตลอดทั้งวันในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมอี-คอมเมิร์ซโดยรวมในจีน ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เทศกาลวันคนโสด ถือเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคแดนมังกร รวมทั้งยังเป็นการโฆษณาให้แก่อาลีบาบาที่มีแผนนำหุ้น 15,000 ล้านดอลลาร์ออกขายในตลาดฮ่องกงเดือนนี้ หลังจากที่ได้จดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯมาแล้ว
แม้ว่าอาลีบาบา มีการทุ่มแตกธุรกิจขนานใหญ่ แต่รายได้กว่า 4 ใน 5 ยังคงมาจากอี-คอมเมิร์ซ
อาลีบาบาเปลี่ยนวันคนโสดอย่างไม่เป็นทางการของจีน ให้กลายเป็นเทศกาลช้อปปิ้งตั้งแต่ปี 2009 และต่อยอดเป็นเทศกาลช้อปออนไลน์ใหญ่ที่สุดของโลก ทิ้งห่าง “ไซเบอร์ มันเดย์” ในอเมริกาที่ปีที่แล้วทำยอดขายได้เพียง 7,900 ล้านดอลลาร์
เทศกาลวันคนโสดยังถูกลอกเลียนแบบทั้งในและนอกจีน เช่น เจดีดอทคอม และพินโดโด คู่แข่งในบ้าน ตลอดจนถึง 11สตรีทของเกาหลีใต้ และ คู10 ของสิงคโปร์ โดยบริษัทเหล่านี้ต่างออกโปรโมชั่นชิงยอดขายในวันที่ 11 พฤศจิกายน
แต่อัตราเติบโตของยอดขายของอาลีบาบาในวันคนโสดนั้น มีการขยับลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายในวันที่ 11 เดือน 11 เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2017 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี สำหรับปีนี้บริษัทหลักทรัพย์ซิติกคาดว่า อัตราเติบโตของยอดขายจะสูงขึ้นแค่ 20-25%
ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของจีนแห่งนี้ที่มีมูลค่าตลาด 486,000 ล้านดอลลาร์ เปิดเทศกาลลดกระหน่ำสินค้าออนไลน์ 24 ชั่วโมงปีนี้เมื่อเวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (10) ด้วยคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ป๊อปสตาร์จากอเมริกา ตามด้วยไลฟ์สตรีมขายสินค้ากว่า 1,000 แบรนด์
อาลีบาบาเผยว่า ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 68 วินาที และแตะ 22,600 ล้านดอลลาร์ในช่วง 9 ชั่วโมงแรก หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในวันคนโสดปีที่แล้ว 25% นอกจากนั้นสินค้า 84 แบรนด์ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล, ลอรีอัล และยูนิโคล ยังกวาดยอดขายกว่า 100 ล้านหยวน (14.3 ล้านดอลลาร์) ในชั่วโมงแรก
ในส่วนแพล็ตฟอร์มทีมอลล์ของอาลีบาบานั้น กว่าครึ่งขายสินค้าผ่านไลฟ์สตรีม และทำยอดขายทะลุ 10,000 ล้านหยวน (1,431 ล้านดอลลาร์) เมื่อเวลา 8.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น (7.55 น. ตามเวลาไทย) อาลีบาบายังคาดว่า จะมีผู้ซื้อกว่า 500 ล้านคนในปีนี้ จากราว 100 ล้านคนในปี 2018
เทศกาลวันคนโสดปีนี้เป็นปีแรกที่จัดขึ้นนับจากแจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการในเดือนกันยายนเพื่อ “เริ่มต้นชีวิตใหม่”
แดเนียล จาง ประธานกรรมการอาลีบาบา กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทตระหนักว่า ผู้บริโภคมีความหลากหลายขึ้น และจำนวนลูกค้าหนุ่มสาวเพิ่มมากขึ้น
ยอดขายอี-คอมเมิร์ซในจีนยังเติบโตเนื่องจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอต่อลูกค้าที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีขึ้นและราคาแพงขึ้น
เรย์มอนด์ หม่า ผู้จัดการพอร์ตการลงทุของฟิเดลลิตี้ อินเวสต์เมนต์ กล่าวว่า การบริโภคมีบทบาทสำคัญขึ้นต่อเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีดิจิตอลช่วยส่งเสริมแนวโน้มนี้ ด้วยการทำให้การบริโภคง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สำหรับคู่แข่งยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง เจดีดอทคอม ซึ่งใช้วิธีจัดเทศกาลวันคนโสดของตนเป็นเวลา 11 วันโดยเริ่มต้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน เผยว่า มียอดขายจนถึงช่วงบ่ายวันจันทร์ 25,685 ล้านดอลลาร์ มากกว่ายอดขายตลอด 11 วันเต็มของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 22,400 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันจันทร์ กรีนพีซและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้เปิดเผยรายงานที่คาดว่า ขยะจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและการจัดส่งด่วนของจีนจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4 เท่าตัว จาก 9.4 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว เป็น 41.3 ล้านตันในปี 2025 หากปราศจากมาตรการควบคุม
อย่างไรก็ตาม อาลีบาบายืนยันเมื่อเดือนที่แล้วว่า บริษัทดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมทั้งเสนอมาตรการจูงใจเพื่อให้ลูกค้ารีไซเคิล และวันที่ 20 เดือนนี้ ไช่เหนี่ยว บริษัทจัดส่งในเครือ จะจัดให้เป็นวันรีไซเคิลกระดาษแข็ง
ส่วนเจดีดอทคอมออกมาตรการเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน โดยการประกาศลดการใช้เทปกาวและกระดาษในคลังสินค้าและเพิ่มการใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้