เอเจนซีส์ – จีนชี้ฮ่องกงควรเร่งปรับปรุงกฎหมายความมั่นคงให้เข้มงวดขึ้น เพื่อยุติการประท้วงและความรุนแรงที่ยืดเยื้อมา 5 เดือน ย้ำผู้นำและสถาบันหลักต้องจงรักภักดีต่อแผ่นดินใหญ่ ด้านผู้เชี่ยวชาญนานาชาติฉีกหน้ารัฐบาลฮ่องกง ระบุองค์กรตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับตำรวจเป็นแค่เสือกระดาษ ขณะเดียวกันชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนชุมนุมโดยสงบเมื่อคืนวันเสาร์ (9 พ.ย.) เพื่อไว้อาลัยนักศึกษาหนุ่มที่ตกจากที่จอดรถระหว่างปะทะกับตำรวจเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนและเสียชีวิตในวันศุกร์ (8 พ.ย.)
จาง เสี่ยวหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของทางการจีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ยอมรับว่า ฮ่องกงต้องปรับปรุงธรรมาภิบาล และว่า ปัจจัยต่างๆ อาทิ ต้นทุนที่อยู่อาศัยที่แพงมาก และช่องว่างด้านความมั่งคั่งที่กว้างขวางขึ้นเป็นสาเหตุของการประท้วง
จางสนับสนุนการประกาศให้การบ่อนทำลายและความท้าทายอื่นๆ ต่อการควบคุมของรัฐบาลกลางในแผ่นดินใหญ่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และย้ำว่า ผู้นำ คณะบริหาร ฝ่ายตุลาการและนิติบัญญัติของฮ่องกงต้องจงรักภักดีต่อจีน
แถลงการณ์ระบุถึงความจำเป็นในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ และการส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายกลายเป็นภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลและประชาชนทุกภาคส่วนของฮ่องกงเผชิญอยู่
ข้อเรียกร้องนี้มีแนวโน้มทำให้ผู้ประท้วงโกรธแค้นมากขึ้น หลังจากเมื่อคืนวันเสาร์ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนชุมนุมอย่างสงบเพื่อไว้อาลัย อเล็กซ์ โจว นักศึกษาชายวัย 22 ปี ที่ตกจากอาคารที่จอดรถระหว่างปะทะกับตำรวจตั้งแต่สุดสัปดาห์ก่อนและเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.)
การชุมนุมดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังจากตำรวจตั้งข้อหาสมาชิกรัฐสภาอย่างน้อย 7 คน จากการพยายามขัดขวางร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในระหว่างการอภิปรายช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งหากถูกตัดสินว่า ผิดจริงอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี นอกจากนี้การที่แคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พยายามเร่งรัดกฎหมายดังกล่าวเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การประท้วงที่ยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้
ล่าสุดตำรวจฮ่องกงต้องใช้แก๊สน้ำตากับผู้ประท้วงที่เขตซวนว่านในวันอาทิตย์ ถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ 24 ต่อเนื่องที่ฮ่องกงเผชิญความวุ่นวาย นอกจากนั้นผู้ประท้วงยังบุกทำลายสถานีรถไฟใต้ดินในเขตซาตินที่ปิดให้บริการ ขณะที่ผู้ประท้วงอีกจำนวนหนึ่งนัดแนะชุมนุมในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่นเดียวกับสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน แม้ศูนย์กลางการเงินโลกแห่งนี้เผชิญการประท้วงและความรุนแรงมาตลอด 5 เดือน แต่ปักกิ่งยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องหลักของผู้ประท้วง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการกระทำของตำรวจ
ทางด้านลัมยืนกรานว่า คณะกรรมการอิสระรับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับตำรวจ (ไอพีซีซี) ทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ผู้ประท้วงแย้งว่า ไอพีซีซีขาดอำนาจในการสอบสวน ซ้ำสมาชิกยังมีแต่ผู้สนับสนุนปักกิ่ง และไม่สามารถบังคับตำรวจได้
เมื่อเดือนกันยายน ลัมแต่งตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระเพื่อให้คำแนะนำแก่ไอพีซีซี โดยมีเซอร์เดนนิส โอคอนเนอร์ ที่เคยได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอังกฤษให้ตรวจสอบตำรวจหลังเหตุจลาจลลอนดอนในปี 2011 เป็นประธาน และประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ นิวซีแลนด์ และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับลงวันที่ 8 พฤศจิกายนของคณะผู้เชี่ยวชาญชุดนี้ระบุว่า ไอพีซีซีขาดทั้งอำนาจ ความสามารถ และศักยภาพในการดำเนินการสอบสวนอย่างอิสระที่จำเป็น เมื่อเทียบกับขอบเขตของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมาตรฐานสากลในการดำเนินการขององค์กรกำกับดูแลตำรวจ
รายงานเสริมว่า หากมีการอนุมัติทรัพยากรเพิ่มเติม ไอพีซีซีอาจสามารถออกรายงานชั่วคราวด้วยข้อเท็จจริงจำกัดแต่เพียงพอเกี่ยวกับสาเหตุของการประท้วงและการจัดการของเจ้าหน้าที่
คณะผู้เชี่ยวชาญสำทับว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทำการสอบสวนอย่างครอบคลุมและลงลึกยิ่งขึ้นโดยหน่วยงานอิสระซึ่งมีอำนาจเพียงพอ
รายงานฉบับนี้ไม่ได้ปรากฏบนเว็บไซต์ไอพีซีซี แต่เผยแพร่บนทวิตเตอร์เมื่อคืนวันเสาร์โดยคลิฟฟอร์ด สก็อตต์ นักวิชาการอังกฤษและเป็นหนึ่งในคณะผู้เชี่ยวชาญชุดนี้
ทางด้านรัฐบาลและตำรวจฮ่องกงยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่แอนโทนี ดาปิรัน นักกฎหมายในฮ่องกงที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ระบุว่า ข้อสรุปของคณะผู้เชี่ยวชาญทำให้ลัมที่คะแนนนิยมตกต่ำสุดขีด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะรัฐบาลเป็นผู้คัดเลือกและแต่งตั้งเองกับมือโดยคาดหวังว่า ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้จะให้การรับรองผลงานของไอพีซีซี นอกจากนั้นยังเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสอบสวนอย่างอิสระ