xs
xsm
sm
md
lg

แฉเฟซบุ๊กแหกตาโอ่ปกป้องความเป็นส่วนตัว ที่แท้นำข้อมูลผู้ใช้ตกรางวัลคู่ค้า-กีดกันคู่แข่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – เอกสารคำฟ้องที่รั่วไหลออกมาระบุ “เฟซบุ๊ก” เริ่มปิดไม่ให้ “ผู้พัฒนาแอป” รายที่มีแนวโน้มเป็นคู่แข่ง เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ของตนมาตั้งแต่ปี 2012 แต่กลับอวดอ้างกับสังคมว่า เป็นความพยายามปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทั้งที่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมแห่งนี้ยังคงอนุญาตให้พวกที่เป็นพันธมิตรเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เหล่านี้อยู่

เอกสารเกือบ 7,000 หน้า ซึ่งประกอบด้วยอีเมลและบันทึกของผู้บริหารที่รั่วไหลออกมาในวันพุธ (6 พ.ย.) เกิดขึ้นขณะที่เฟซบุ๊กกำลังเผชิญการสอบสวนจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด หนึ่งในนั้นคือคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ต้องการเข้าถึงบันทึกของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการตัดสินใจห้ามแอปต่างๆ เข้าถึงกราฟของบริษัทซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้

เอกสารเหล่านี้มาจากการคดีฟ้องร้องเมื่อปี 2015 โดยโจทก์คือ ซิกซ์4ทรี ผู้พัฒนาแอปภาพชุดว่ายน้ำที่ปิดกิจการไปแล้ว ปรากฏว่าแอป ซิกซ์4ทรีไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กได้ สืบเนื่องจากเปลี่ยนแปลงนโยบายของผู้บุกเบิกแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียแห่งนี้ที่ประกาศออกมาในปี 2014 และบังคับใช้ในปีถัดไป

ซิกซ์4ทรีฟ้องร้องว่า นโยบายปิดไม่ให้ใช้ข้อมูลของเฟซบุ๊ก เป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด แถมเฟซบุ๊กยังสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชนและผู้พัฒนาว่า นโยบายเหล่านั้นมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ทางด้านโฆษกเฟซบุ๊กตอบโต้ว่า คำฟ้องร้องดังกล่าวไม่มีมูล ส่วนเอกสารที่นำมาอ้างอิงเป็นข้อมูลเพียงด้านเดียวที่ได้มาจากผู้ที่ไม่หวังดีต่อบริษัท รวมทั้งยังเปิดเผยต่อสาธารณชนโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายของสหรัฐฯ

แพล็ตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมแห่งนี้ยังอ้างว่า การฟ้องร้องของซิกซ์4ทรีมีเป้าหมายเพื่อบังคับให้บริษัทอนุญาตการเข้าถึงข้อมูลที่สามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ในลักษณะเดียวกับกรณีอื้อฉาวเคมบริดจ์ อะนาลิติกา

ทั้งนี้ เคมบริดจ์ อะนาลิติกา เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเมือง ซึ่งได้ทำงานให้ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2016 โดยที่มีรายงานระบุว่า บริษัทได้อาศัยการได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไปในการเจาะข้อมูลความชมชอบทางการเมืองของผู้ใช้เฟซบุ๊กถึง 87 ล้านคน


อย่างไรก็ดี เนื้อหาบางส่วนในเอกสารเหล่านี้ซึ่งรั่วไหลออกมาล่าสุดนี้ ได้มีการเปิดเผยมาตั้งแต่ปีที่แล้วโดยสมาชิกรัฐสภาอังกฤษที่ทำการสอบสวนว่า เฟซบุ๊กถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเบี่ยงเบนผลการเลือกตั้งหรือไม่

คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวระบุว่า เอกสารภายในของเฟซบุ๊กที่ได้มาจากคดีฟ้องร้องของซิกซ์4ทรีนั้นเผยให้เห็นว่า โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่แห่งนี้ยังคงอนุญาตให้เน็ตฟลิกซ์และแอปยอดนิยมอีกมากมายเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ทั้งที่ประกาศว่า ได้ปรับกฎป้องกันความเป็นส่วนตัวเข้มงวดขึ้นแล้วก็ตาม

สำหรับเอกสารใหม่ประกอบด้วยการถกเถียงในหมู่ผู้บริหารเฟซบุ๊ก ซึ่งรวมถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท เรื่องการตัดการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ของผู้พัฒนาแอปที่ถือเป็นว่าที่คู่แข่ง และการใช้ข้อมูลเดียวกันนั้นตกรางวัลแก่พันธมิตร ในช่วงเวลาที่บริษัทอวดอ้างว่า นำเสนอแพล็ตฟอร์มที่เปิดกว้างและเป็นกลาง

ผู้บริหารคนหนึ่งระบุในเอกสารปี 2013 อธิบายการแบ่งผู้พัฒนาแอปออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คู่แข่งเดิม ว่าที่คู่แข่งในอนาคต และผู้พัฒนาที่มีรูปแบบธุรกิจสอดคล้องกับเฟซบุ๊ก โดยการจำแนกนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ที่มีชื่อว่า “พีเอส12เอ็น”

ผู้พัฒนาในกลุ่มสุดท้ายสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้อีกครั้งหากตกลงซื้อโฆษณาบนแพล็ตฟอร์มเฟซบุ๊กหรือให้ข้อมูลผู้ใช้เป็นการตอบแทน

ขณะเดียวกัน เอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า เอกสารเหล่านี้ที่ครอบคลุมข้อมูลนับจากปี 2011 เผยให้เห็นว่า เฟซบุ๊กอนุญาตให้แอมะซอนเข้าถึงข้อมูลพิเศษหลังจากบริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ร่วมชาติตกลงซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊ก แต่กลับปิดกั้นแมสเสจมี ซึ่งเป็นแอปรับส่งข้อความที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคู่แข่งของเฟซบุ๊ก
กำลังโหลดความคิดเห็น