เอเจนซีส์ - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศดำเนินคดีอาญากับอดีตพนักงานทวิตเตอร์ 2 คน และผู้ต้องหารายที่ 3 ฐานทำงานเป็น “สายลับ” ให้ซาอุดีอาระเบีย โดยมีการเจาะข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ซาอุฯ เพื่อแลกกับค่าตอบแทน
เอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลแขวงซานฟรานซิสโกวานนี้ (6 พ.ย.) ระบุว่า อาลี อัลซาบาเราะห์ (Ali Alzabarah) และ อะหมัด อบูอัมโม (Ahmad Abouammo) ซึ่งเป็นอดีตพนักงานทวิตเตอร์ และ อาเหม็ด อัลมูไตรี (Ahmed Almutairi) ซึ่งทำงานให้ราชวงศ์ซาอุฯ ถูกตั้งข้อหาจารกรรมข้อมูลให้กับรัฐบาลริยาดโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนสายลับต่างชาติ
อบูอัมโม ได้เจาะบัญชีทวิตเตอร์ของผู้วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ คนหนึ่งหลายครั้งเมื่อช่วงต้นปี 2015 โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเข้าไปดูอีเมลแอดเดรสและเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้คนดังกล่าว นอกจากนี้ยังทำการเจาะบัญชีของผู้โพสต์ข้อความวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ รายที่ 2 เพื่อสืบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร
“ข้อมูลดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้เพื่อระบุตัวตนและที่อยู่ของผู้ใช้ทวิตเตอร์ซึ่งโพสต์ข้อความเหล่านี้” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุ
เอกสารคำฟ้องระบุว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้รับการชี้นำจากเจ้าหน้าที่ซาอุฯ คนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่คนนี้ทำงานให้กับ ‘สมาชิกราชวงศ์หมายเลข 1’ ซึ่งหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รานงานว่าหมายถึง มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
อดีตพนักงานทวิตเตอร์ทั้งสองได้รับค่าตอบแทนในรูปของเงินสด รวมถึงของกำนัลอื่นๆ เช่น นาฬิกาข้อมือหรู
สำหรับ อัลมูไตรี นั้นถูกกล่าวหาว่าทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ระหว่างรัฐบาลซาอุฯ กับอดีตพนักงานทวิตเตอร์ทั้งสอง
“คำฟ้องคดีอาญาที่เผยแพร่วันนี้ระบุว่าสายลับซาอุฯ ได้เข้าถึงระบบภายใตของทวิตเตอร์เพื่อสืบหาข้อมูลส่วนตัวของผู้วิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ และผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหลายพันคน” เดวิด แอนเดอร์สัน อัยการสหรัฐฯ ระบุ “กฎหมายสหรัฐฯ ให้ความคุ้มครองบริษัทอเมริกันจากการถูกต่างชาติแทรกแซงอย่างผิดกฎหมาย เราจะไม่ยอมให้บริษัทหรือเทคโนโลยีของเรากลายเป็นเครื่องมือที่ต่างชาติใช้ในการกดขี่และละเมิดกฎหมายอเมริกัน”
อบูอัมโม ซึ่งเป็นชาวอเมริกันวัย 41 ปี ถูกจับที่นครซีแอตเติลในรัฐวอชิงตัน ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนยังอยู่ในซาอุดีอาระเบีย
ผู้พิพากษาศาลแขวงมีคำสั่งฝากขัง อบูอัมโม เพื่อรอการไต่สวนในวันศุกร์นี้ (8) ขณะที่สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ให้เหตุผลในการควบคุมตัวว่า เป็นเพราะ “มีความเสี่ยงสูง” ที่ผู้ต้องหาจะหลบหนี
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่ช่วยสหรัฐฯ ต้านทานอิทธิพลของอิหร่านกำลังถูกนานาชาติวิจารณ์และเพ่งเล็งเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดคดีฆาตกรรมผู้สื่อข่าว จามาล คาช็อกกี เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงบทบาทของริยาดต่อสงครามในเยเมนซึ่งมีผู้บริสุทธิ์ถูกสังหารเป็นจำนวนมาก