รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษเรียกร้องระหว่างคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการรีดภาษีสินค้าบางชนิด รวมถึงสก็อตวิสกี้ โฆษกทำเนียบดาวนิงสตรีทแถลงเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.)
ผู้นำอังกฤษยังขอให้ ทรัมป์ ยับยั้งการขึ้นภาษีศุลกากรรถยนต์นำเข้าด้วย
ถ้อยแถลงจากฝั่งทำเนียบขาวไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักว่า ทรัมป์ และ จอห์นสัน พูดคุยอะไรกันบ้างเกี่ยวกับประเด็นการค้า
“ผู้นำทั้งสองรับปากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์พิเศษ (Special Relationship) ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นผ่านข้อตกลงการค้าทวิภาคี หลังจากที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)” ทำเนียบขาวระบุ
“ประธานาธิบดียังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่พันธมิตรนาโตจะต้องจัดสรรงบอุดหนุนด้านกลาโหมให้มากยิ่งขึ้น”
เดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ประกาศเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 25% ต่อสก็อตวิสกี้และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากยุโรปอีกหลายตัว เพื่อแก้แค้นที่อียูยังคงนโยบายอุดหนุนผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาล ทรัมป์ ยังขู่ด้วยว่าอาจจะรีดภาษีสูงสุดถึง 25% ต่อรถยนต์และชิ้นส่วนยานพาหนะนำเข้าจากอียู ซึ่งวอชิงตันอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเริ่มบังคับใช้มาตรการทางภาษีดังกล่าวภายในวันที่ 14 พ.ย. หรือไม่
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ชะลอการรีดภาษีรถยนต์นำเข้ามาแล้วครั้งหนึ่งเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการค้าเชื่อว่ามีโอกาสที่วอชิงตันจะเลื่อนบทลงโทษออกไปอีก