รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์โต แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศตั้งรองประธานาธิบดีจากพรรคฝ่ายค้านเป็น “ประธานร่วม” ในแคมเปญต่อต้านยาเสพติดของเขา หลังจากที่นักการเมืองหญิงผู้นี้ออกมาวิจารณ์ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และชี้ว่าจำเป็นต้องหาแนวทางใหม่ในการแก้ปัญหา
ประกาศแต่งตั้ง เลนี โรเบรโด (Leni Robredo) มีขึ้นหลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์วิจารณ์นโยบายของ ดูเตอร์เต ผ่านทางสำนักข่าวรอยเตอร์และสื่ออื่นๆ ซึ่งทำให้ผู้นำขาโหดออกอาการฉุนเฉียว และสร้างความไม่พอใจต่อฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล
ทั้งนี้ โรเบรโด ได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดีผ่านกระบวนการเลือกตั้งที่แยกต่างหาก และไม่ได้มีบทบาทในการบริหารประเทศแต่อย่างใด
โฆษกของ ดูเตอร์เต ยืนยันว่า ประธานาธิบดียกตำแหน่ง “ประธานร่วม” ในคณะกรรมการต่อต้านยาเสพติดให้แก่ โรเบรโด ด้วยความจริงใจ และไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิตเธอ
“ทำเนียบประธานาธิบดีหวังว่า (การแต่งตั้งโรเบรโด) คงจะทำให้พวกที่ชอบใส่ร้ายและนักวิจารณ์ได้เห็นถึงความจริงใจของประธานาธิบดี” ซัลวาดอร์ พาเนโล โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระบุ
รองประธานาธิบดีหญิงผู้นี้ยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับตำแหน่งใหม่ที่ได้รับ ขณะที่โฆษกของเธอให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การที่ ดูเตอร์เต เสนอให้ โรเบรโด เข้ามาร่วมกำกับดูแลสงครามเสพติดก็เพื่อให้เธอกลายเป็น “แพะรับบาป”
สงครามยาเสพติดซึ่งถือเป็นนโยบายซิกเนเจอร์ของ ดูเตอร์เต เรียกเสียงประณามจากทั่วโลก เนื่องจากกระตุ้นให้ตำรวจออกไล่ล่าและวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยหลายพันคนอย่างเป็นระบบโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางตำรวจปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) มีมติเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ สร้างความเดือดดาลต่อ ดูเตอร์เต ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเพิ่งจะนำฟิลิปปินส์ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) หลังจากที่ไอซีซีเปิดการสอบสวนเบื้องต้นว่าสงครามยาเสพติดนั้นจะเข้าข่าย “ก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ” หรือไม่
นักเคลื่อนไหวชี้ว่า ตำรวจที่ออกปฏิบัติการล่าสังหารผู้ค้ายาเสพติดได้รับการปกป้องไม่ให้ถูกดำเนินคดี และยังได้รับแรงเชียร์จาก ดูเตอร์เต ซึ่งเคยประกาศกร้าวว่าจะสังหารผู้ค้ายาเสพติดให้ได้ถึง 100,000 คน
ตำรวจฟิลิปปินส์ยอมรับว่าได้วิสามัญฯ ผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดที่ “ขัดขืนการจับกุม” ไปเกือบ 7,000 คน แต่ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับกรณีที่ผู้เสพยารายย่อยอีกหลายพันถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา
โรเบรโด ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ว่า สงครามยาเสพติดของ ดูเตอร์เต พุ่งเป้าไปที่คนจนเป็นหลัก ทั้งยังปล่อยให้ตำรวจใช้อำนาจในทางมิชอบ และแม้จะมีคนถูกฆ่าไปแล้วมากมายแต่กลับไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าปัญหายาเสพติดลดน้อยลง
เธอเรียกร้องให้นานาชาติโดยเฉพาะยูเอ็นและ ICC เข้าแทรกแซง หากรัฐบาลไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนโยบายเสียใหม่
โฆษก ดูเตอร์เต ระบุว่า ประธานาธิบดีได้สั่งให้ทุกหน่วยงานสนับสนุน โรเบรโด อย่างเต็มที่
“ในเมื่อเธอวิจารณ์สงครามยาเสพติดว่าไม่ได้ผล งั้นเธอก็น่าจะมีไอเดียว่าจะทำอย่างไรให้มันได้ผล” พาเนโล ให้สัมภาษณ์