รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่อเมริกันซึ่งเป็น “ผู้เปิดโปง” (whistleblower) เรื่องประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ล็อบบี้ผู้นำยูเครนให้ตรวจสอบ โจ ไบเดน จนนำมาสู่กระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง ยินยอมที่จะให้ข้อมูลโดยตรงกับ ส.ส.รีพับลิกันในคณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎร ทีมทนายเผยวานนี้ (3 พ.ย.)
มาร์ค ซาอิด ทนายของผู้เปิดโปง ระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถือเป็นการตอบสนองข้อเรียกร้องของฝ่ายรีพับลิกันและ ทรัมป์ ซึ่งท้าให้ผู้เปิดโปงออกมาเปิดเผยตัวตน
“พรรครีพับลิกันพยายามเปิดเผยตัวตนลูกความของเรา ซึ่งอาจทำให้เขาและครอบครัวได้รับอันตราย” ซาอิด แถลงผ่านทวิตเตอร์
ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ ยังคงจี้ให้ผู้เปิดโปงเปิดเผยตัว ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายสหรัฐฯ ที่ให้ความคุ้มครองต่อผู้แจ้งเบาะแสในคดีลักษณะนี้
“ผู้เปิดโปงรายนี้เข้าใจผิดไปไกลมาก และควรต้องเปิดเผยตัวตน” ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (3) และต่อมายังให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาว โดยเรียกบุคคลดังกล่าวว่าเป็น “เจ้าหนุ่มโอบามา” (Obama guy) และเป็นพวกฉ้อฉล
พรรครีพับลิกันวิจารณ์กระบวนการไต่สวนโดยสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากว่า “ไม่ยุติธรรม” ทั้งต่อพวกตนและทรัมป์ และอ้างว่า ส.ส.รีพับลิกันถูกกีดกันไม่ให้มีโอกาสร่วมไต่สวนพยาน
ทรัมป์ เผชิญแรงกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรเดินหน้าตรวจสอบว่าเขาใช้อิทธิพลกดดันชาติพันธมิตรอย่างยูเครนให้ช่วยเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้าหรือไม่
การไต่สวนเพื่อถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ (impeachment) เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ก.ย. หลังมีเจ้าหน้าที่ข่าวกรองผู้หนึ่งออกมายื่นเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมของ ทรัมป์ ว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่การไต่สวนย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 คำให้การจากผู้เปิดโปงซึ่งได้รับข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อีกต่อหนึ่งอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดอีกต่อไป เนื่องจากคณะกรรมการไต่สวนของสภาล่างยังได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อีกหลายคนซึ่งมีประสบการณ์ตรง (first-hand accounts) หนึ่งในนั้นคือ อเล็กซานเดอร์ วินด์แมน อดีตสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งแฉความพยายามของ ทรัมป์ ที่จะกดดันให้ยูเครนตรวจสอบ ไบเดน และบุตรชาย ‘ฮันเตอร์’ และยังนำเงินช่วยเหลือ 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาเป็นเครื่องต่อรองด้วย
ทำเนียบขาวได้เผยแพร่บทสนทนาโดยสรุประหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดี โวโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งยืนยันได้ว่า ทรัมป์ เอ่ยปากขอให้ผู้นำยูเครนตรวจสอบสองพ่อลูกไบเดนจริง
แอดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎร ระบุเมื่อเดือน ต.ค. ว่า อาจจะไม่จำเป็นต้องเรียกผู้เปิดโปงเข้าให้การ
ก่อนหน้านี้ ผู้เปิดโปงเคยเสนอที่จะส่งคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หากคณะกรรมาธิการข่าวกรองทั้งคณะยื่นประเด็นคำถามมา
ทนาย ซาอิด ชี้ว่า ข้อเสนอใหม่ที่ยื่นต่อ เดวิด นูเนส แกนนำส.ส.รีพับลิกันในคณะกรรมาธิการข่าวกรองเมื่อวันเสาร์ (2) แสดงให้เห็นว่าลูกความของตนต้องการให้ข้อร้องเรียนนี้ได้รับการตรวจสอบอย่างโปร่งใสโดยไม่อิงพรรคการเมือง
ทรัมป์ ระบุวานนี้ (3) ว่าตนไม่เชื่อใจ ชิฟฟ์ ว่าจะเผยแพร่คำให้การของพยานอย่างถูกต้องแม่นยำ และชี้ว่า ส.ส.ผู้นี้ “ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นคนโกหก ชอบปล่อยข่าว วิตถาร และสมควรที่จะถูกถอดถอน!”
ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ ส.ส.รีพับลิกันจัดทำสคริปต์คำให้การของพยานเพื่อนำมาสอบทานกับ “คำโฆษณาชวนเชื่อของชิฟฟ์”