รอยเตอร์ - สื่อเกาหลีเหนือเผยการยิงทดสอบระบบจรวดหลายลำกล้องขนาดใหญ่พิเศษ (super-large multiple rocket launcher) เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ท่ามกลางเสียงประณามจากเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
สำนักข่าว KCNA รายงานวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า การทดสอบระบบจรวดหลายลำกล้องขนาดใหญ่พิเศษครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ได้กระทำมาแล้ว 2 ครั้งในเดือน ส.ค. และ ก.ย. และผู้นำ คิม จองอึน ได้เดินทางไปคุมการทดสอบด้วยตนเอง
ความคืบหน้าล่าสุดนี้บ่งบอกว่าเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธประสิทธิภาพสูงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในขณะที่การเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ยังไปไม่ถึงไหน
KCNA ระบุว่า ความสำเร็จครั้งนี้ถูกรายงานให้สาธารณชนทราบทันที และผู้นำ คิม ก็แสดงความพึงพอใจ ทั้งยังเอ่ยชมทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมกันพัฒนาอาวุธชนิดนี้
หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลโสมแดงได้ตีพิมพ์ภาพถ่ายแท่นยิงจรวดหลายลำกล้องซึ่งมีเปลวเพลิงสีเหลืองและกลุ่มควันจากการยิงทดสอบพวยพุ่งออกมา
KCNA ชี้ว่า ผลการทดสอบเมื่อวานนี้ (31) เป็นข้อพิสูจน์ว่า ระบบยิงต่อเนื่องของจรวดหลายลำกล้องตัวนี้สามารถ “ทำลายกลุ่มเป้าหมายศัตรูได้อย่างราบคาบ” โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชี้ว่า สิ่งที่โสมแดงทดสอบจัดเป็น “ขีปนาวุธ” ชนิดหนึ่ง และเข้าข่ายละเมิดคำสั่งห้ามของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจอย่างยิ่ง”
โครี การ์ดเนอร์ ประธานคณะอนุกรรมการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ฝ่ายเอเชียตะวันออก, แปซิฟิก และนโยบายความมั่นคงไซเบอร์ระหว่างประเทศ ชี้ว่า เกาหลีเหนือ “แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” และรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สมควรที่จะรื้อฟื้นนโยบายกดดันขั้นสูงสุด ขณะที่สภาคองเกรสก็ควรออกมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาล คิม เพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ดี ชุง อึยยอง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ กลับระบุว่า การทดสอบอาวุธในเกาหลีเหนือ “ไม่ได้เป็นภัยร้ายแรง”
“เราเองก็มีการยิงทดสอบขีปนาวุธไม่น้อยไปกว่าที่เกาหลีเหนือทำ” ชุง กล่าวต่อที่ประชุมสภา “ระบบป้องกันขีปนาวุธและขีปนาวุธสกัดกั้นของเรามีศักยภาพเหนือกว่าของพวกเขาอย่างแน่นอน”
การหารือระหว่างผู้แทนสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือที่สวีเดนเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ปิดฉากลงด้วยความล้มเหลว ขณะที่รัฐบาลโสมแดงย้ำเตือนถึงกำหนดเส้นตายปลายปีนี้ที่ผู้นำ คิม กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องลดจุดยืนแข็งกร้าวในการเจรจานิวเคลียร์กับเปียงยาง
KCNA รายงานเมื่อเดือน ต.ค. ว่า แม้ผู้นำ คิม และประธานาธิบดี ทรัมป์ จะมี “ความสัมพันธ์ที่พิเศษ” ต่อกัน แต่ผู้กำหนดนโยบายในวอชิงตัน “ยังคงมีใจเป็นปรปักษ์กับเกาหลีเหนืออย่างไร้เหตุผล”