รอยเตอร์ - ซาอัด อัล-ฮาริรี นายกรัฐมนตรีเลบานอนเปิดเผยจะยื่นใบลาออกในวันอังคาร(29ต.ค.) โดยยอมรับว่าเขาต้องประสบกับทางตันในความพยายามคลี่คลายวิกฤตซึ่งมีต้นตอจากการประท้วงต่อต้านชนชั้นนำทางการเมืองของประเทศ
นักการเมืองชาวสุหนี่รายนี้กล่าวปราศรัยถึงประชาชนทั่วประเทศผ่านสถานีโทรทัศน์ หลังจากฝูงม็อบที่ภักดีต่อฮิซบอลเลาะห์และอมัล 2 กลุ่มมุสลิมชีอะห์ เข้าโจมตีทำลายแคมป์การชุมนุมหนึ่งของพวกผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในกรุงเบรุต
เลขานอนตกอยู่ในภาวะอัมพาตจากระลอกคลื่นของการประท้วงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในความเคลื่อนไหวต่อต้านการคอรัปชันอย่างมโหฬารของชนชั้นนำทางการเมือง ซึ่งฉุดเลบานอนดำดิ่งสู่วิกฤตทางเศราฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามการเมืองปี 1975-1990
"เป็นเวลา 13 วันที่ชาวเลบานอนเฝ้ารอการตัดสินใจเพื่อทางออกทางการเมืองหนึ่งซึ่งจะหยุดความเสื่อมโทรมทางเศรษฐกิจ ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ผมพยายามหาทางออก ผ่านการฟังเสียงของประชาชน" ฮาริรีกล่าว "ผมกำลังไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อยื่นใบลาออกของรัฐบาล ถึงทุกพันธมิตรในชีวิตทางการเมือง ความรับผิดชอบของเราในวันนี้ก็คือการปกป้องเลบานอนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของเลบานอน"
ความวุ่นวายจากการประท้วงได้ซ้ำเติมเศรษฐกิจของเลบานอนให้ถลำสู่ขั้นเลวร้าย ด้วยภาวะตึงตัวทางการเงินกำลังนำมาซึ่งการขาดแคลนสกุลเงินแข็งและฉุดสกุลเงินปอนด์เลบานอนอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลเลบานอนก็ดำดิ่งสู่ความปั่นป่วน
การแสดงพลังของพวกผู้ชุมนุมในเบรุต มีขึ้นหลังจากซัยเยด ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าพวกผู้ชุมนุมควรหยุดประท้วงปิดถนนและบ่งชี้ว่าพวกผู้ชุมนุมได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากศัตรูต่างชาติและทำตามวาระของศัตรูต่างชาติเหล่านั้น