รอยเตอร์ - สรรพากรญี่ปุ่นออกมาสรุปยืนยันว่า คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn) อดีตประธาน นิสสัน มอเตอร์ นำเงินของบริษัทไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มน้ำหนักแก่ข้อกล่าวหาในคดีที่ผู้บริหารรายนี้ถูกฟ้องว่าฉ้อโกงบริษัท สื่อญี่ปุ่นรายงานวันนี้ (29 ต.ค.)
หนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนรายงานโดยไม่ระบุแหล่งข่าวว่า สำนักงานสรรพากรญี่ปุ่นตรวจพบว่า กอส์น ได้นำเงินของนิสสันไปจ่ายให้น้องสาวซึ่งถูกแต่งตั้งเป็น ‘ที่ปรึกษา’ อย่างหลอกๆ มานานหลายปี และยังนำเงินบางส่วนไปบริจาคให้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเลบานอน
กอส์น ซึ่งถือสัญชาติเลบานอนถูกอัยการญี่ปุ่นตั้งข้อหาประพฤติมิชอบทางการเงิน และอยู่ระหว่างรอการไต่สวน ซึ่งเจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธ
นิสสันได้ลงบันทึกค่าใช้จ่ายประมาณ 150 ล้านเยนในระยะเวลา 3 ปีจนถึงเดือน มี.ค. ปี 2014 ว่าเป็น ‘ค่าใช้จ่ายในสำนักงานเลขานุการ’ ของประธานบริษัท ทว่าสรรพากรญี่ปุ่นสั่งให้นิสสันต้องจ่ายภาษีสำหรับวงเงินดังกล่าวด้วย เพราะถือเป็น ‘ค่าใช้จ่ายส่วนตัว’ และไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีบริษัทได้
แม้ข้อมูลใหม่นี้จะไม่นำไปสู่การแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่ก็ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้แก่ข้อกล่าวหาของนิสสันที่ว่า กอส์น นำเงินบริษัทไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
เจ้าหน้าที่สรรพากรญี่ปุ่นยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับรอยเตอร์ในประเด็นนี้ ขณะที่โฆษกหญิงนิสสันบอกเพียงว่ากำลังตรวจสอบรายงานของโยมิอุริ ส่วนทีมทนายของ กอส์น ก็ยังไม่ตอบอีเมลที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ส่งไปขอสัมภาษณ์
หลังถูกจับครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว กอส์นก็ถูกอัยการญี่ปุ่นตั้งข้อหาแจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงประมาณ 80 ล้านดอลลาร์, ผลักความสูญเสียในการลงทุนส่วนตัวให้กับนิสสันในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 และยังโอนเงินทุนของนิสสัน 5 ล้านดอลลาร์ให้แก่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในโอมาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความร่ำรวยให้แก่ตนเอง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (24) ทนายของ กอส์น ได้ขอให้ศาลแขวงกรุงโตเกียวถอนฟ้องลูกความของตนในทุกข้อหา โดยอ้างว่าอัยการสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นและผู้บริหารคนอื่นๆ ของนิสสันเพื่อปลด กอส์น
กอส์น ซึ่งเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสัน (Renault-Nissan Alliance) อ้างว่า ข้อครหาที่ตนเผชิญอยู่นั้นเกิดจากความไม่พอใจภายในนิสสันต่อแผนการควบรวมบริษัทแห่งนี้เข้ากับ เรโนลต์ หุ้นส่วนผู้ผลิตยานยนต์ในฝรั่งเศส
โยมิอุริรายงานว่า นิสสันได้ทำการเสียภาษีเพิ่มเติมแล้วหลายสิบล้านดอลลาร์ ขณะที่สรรพากรญี่ปุ่นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลการจ่ายภาษีย้อนหลังของปีก่อนๆ