บัวแก้วเผยทุกประเทศกำลังช่วยไม่ให้ปัญหา “ซีเรีย” บานปลาย ระบุไม่ควรเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 รับสถานการณ์คนไทยไม่น่าห่วง ด้าน สมช.เชื่อไม่บานปลาย คาดอาจกระทบไทยเรื่องน้ำมัน-หุ้น-แรงงานเล็กน้อย
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.45 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ในซีเรียว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในซีเรียพบว่าปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม หากเรื่องบานปลายจะส่งผลกระทบทั้งโลก ทุกประเทศตั้งความหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามใช้ความสามารถอย่างที่สุดในการไม่ให้เรื่องนี้บานปลาย หรือเลวร้ายลง เสื่อมโทรมลงไปอีก นี่คือประเด็นใหญ่ที่สุดที่ทุกประเทศกังวลอยู่ ขณะเดียวกัน ในเรื่องของมนุษยธรรมว่าใครจะช่วยประชาชนชาวซีเรียที่ต้องทนทุกข์ปัญหาดังกล่าวมานานกว่า 7 ปีนั้น หากใครช่วยได้ต้องช่วยกัน อีกส่วนที่สำคัญคือการใช้อาวุธเคมีถ้ามีจริงอย่างที่เป็นข่าวควรจะมีการตรวจสอบกันให้เป็นที่ประจักษ์ โดยขณะนี้ได้มีคณะตรวจสอบขององค์กรการห้ามใช้อาวุธเคมีลงไปตรวจสอบในพื้นที่อยู่ หวังว่าจะได้ผล
รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมคนไทยไม่น่าจะเป็นห่วง เพราะถ้าจะบานปลายไปจะส่งผลกระทบต่อคนทั้งมวลไม่เฉพาะคนไทย ส่วนท่าทีของอาเซียนเราคุยกันแล้ว และยังติดตามเรื่องนี้อยู่ เพราะถือว่าเรื่องยังไม่นิ่ง ขณะนี้ได้เพียงรับฟังประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่ให้ข่าวกันอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนปรารถนาคือ อยากให้เรื่องนี้ผ่อนคลายลง ไม่เกิดการกระทบกระทั่งจนส่งผลให้สถานการณ์เสื่อมโทรมลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายวิเคราะห์ไปว่าอาจส่งผลให้เป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 นายดอนกล่าวว่า ทุกคนพูดกันไปในเชิงนั้น แต่สงครามที่ใหญ่กว่านั้นคือ ความเสียหายที่มหาศาล เกินกว่าจะคาดคะเนได้ ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงตระหนักถึงเรื่องนี้ดี พยายามหาทางไม่ให้เหตุการณ์เกิดบานปลาย หรือเลวร้ายลง เป็นความสนใจของทุกประเทศอยู่แล้ว จึงไม่ควรเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่สามขึ้น
เมื่อถามว่าจะต้องจับตาท่าทีของประเทศจีนหรือไม่ว่าจะมีท่าทีอย่างไร นายดอนกล่าวว่า ประเทศจีนได้แสดงท่าทีแล้วว่าทุกเรื่องราวจะต้องหาทางออกทางการเมืองตามหลักการขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นท่าทีที่สอดคล้องกับทุกประเทศที่ต้องการหาทางออกทางด้านการเมือง มีการเจรจาหารือหาทางออกให้ได้
ต่อข้อถามว่า แต่ยังมีบางส่วนเป็นห่วง เนื่องจากทางยูเอ็นไม่กล้าลงมาแตะเรื่องนี้ นายดอนกล่าวว่า ยูเอ็นได้พูดเรื่องนี้มาตั้ง 7 ปีแล้ว ดังนั้น ถึงวันนี้ยูเอ็นต้องการเห็นเรื่องนี้จางลง และเมื่อใดก็ตามที่ฝุ่นจางลงจะทำให้อีกหลายประเทศให้ความเห็นได้มากขึ้นกว่านี้
เมื่อถามว่า หากสถานการณ์คุกรุ่นขึ้นประเทศสมาชิกของยูเอ็นจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร นายดอนกล่าวว่า ต้องช่วยกันไม่ให้คุกรุ่นขึ้น ขณะนี้เป็นความพยายามของทุกฝ่ายที่จะทำให้เรื่องคลี่คลายหรือไปถึงขั้นที่สงบได้ ดังจะเห็นได้ว่าทุกประเทศที่มีส่วนร่วมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต้องการที่จะหาทางออกทั้งนั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้สถานการณ์เลวร้ายลง จนกระทั่งมีผลกระทบต่อประชาชนของตนเอง ขอให้เอาใจช่วยกันเพื่อช่วยกันให้ เรื่องราวของโลกดีขึ้น
ด้าน พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงผลกระทบจากสถานการณ์ความตรึงเครียดหลังกองทัพของสหรัฐอเมริกาปฏิบัติการโจมตีทางทหารกับประเทศซีเรีย ว่าเชื่อว่าสถานการณ์ไม่บานปลาย เนื่องจากการโจมตีเป็นการจำกัดเป้าหมายไม่ขยายวง ขณะนี้องค์กรที่มีหน้าที่กำลังเข้าไปตรวจสอบว่ามีการใช้สารเคมีอย่างไรบ้างหรือไม่
เมื่อถามถึงผลกระทบที่อาจมีต่อประเทศไทย พล.อ.วัลลภกล่าวว่า อาจมีผลกระทบบ้าง เนื่องจากประเทศซีเรียเป็นผู้ค้าน้ำมัน หรือตลาดหุ้นอาจกระทบบ้างเล็กน้อย นอกจากนั้นจะเป็นเรื่องของแรงงานไทยที่อยู่ในภูมิภาคดังกล่าว เช่น อิสราเอล แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศอยู่แล้ว ในส่วนของภูมิภาคยังคงต้องจับตามอง แต่ช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่มีอะไรลุกลามมาถึงภูมิภาคเรา