รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – กลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูฝรั่งเศส LVMH เจ้าของกระเป๋าหลุยส์วิตตองชื่อดังได้เข้าทาบทามติดต่อซื้อกิจการธุรกิจเพชรแบรด์หรูสัญชาติสหรัฐ์ ทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany & Co) หลังบริษัทเพชรเจอผลกระทบจากภาษีเข้าจีนในสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
รอยเตอร์รายงานวันนี้(27 ต.ค)ว่า บุคคลใกล้ชิดที่รู้ดีในเรื่องนี้เปิดเผยในวันเสาร์(26)ว่า กลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูฝรั่งเศส LVMH เจ้าของกระเป๋าหลุยส์วิตตองชื่อดังได้เข้าทาบทามติดต่อซื้อกิจการธุรกิจเพชรแบรด์หรูสัญชาติสหรัฐ์ ทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany & Co) หลังในช่วงเวลาหนึ่งบริษัทเพชรแบรนด์หรูของสหรัฐฯได้รับผลกระทบทางภาษีจากการส่งออกของตัวเองไปยังจีน
เป็นที่รู้ดีกันว่า กลุ่มธุรกิจฝรั่งเศส LVMH ใช้ความพยายามมานานหลายปีในการที่จะขยายเข้าไปยังตลาดสหรัฐฯ ทางบริษัทได้ยื่นข้อเสนอเบื้องต้นที่ไม่มีผลผูกพันต่อบริษัททิฟฟานีแอนด์โคเมื่อต้นเดือนนี้ หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าว
และพบว่าทางบริษัททิฟฟานีแอนด์โคได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ทำการตรวจสอบข้อเสนอของLVMH แต่ยังไม่ได้มีการตอบกลับไป และยังไม่มีความไม่แน่นอนว่าทางบริษัทจะยอมเปิดการเจรจาในข้อตกลง หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวเสริม
อย่างไรก็ราคาที่ทาง LVMH ได้เสนอสำหรับการซื้อทิฟฟานีแอนด์โคที่มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ 11.9 พันล้านดอลลาร์นั้นยังไม่สามารถรู้ได้ รอยเตอร์รายงาน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงไฟแนนเชียลไทม์สกล่าวว่า จะกลายเป็นการเทคโอเวอร์ครั้งใหญ่สุดของกลุ่มธุรกิจ LVMH
ไฟแนนเชียลไทม์สกล่าวว่า การเข้ามาขอซื้อกิจการต่อทิฟฟานีแอนด์โคครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทเพชรสัญชาติสหรัฐฯต้องปรับตัวอย่างหนัก ที่รวมไปถึงการจับจ่ายที่น้อยลงของนักท่องเที่ยว เงินดอลลาร์แข็งตัว และสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ซึ่งซีอีโอใหญ่ของทิฟฟานีแอนด์โค อเลสซานโดร บอกลิโอโล( Alessandro Bogliolo) ได้พยายามผลักดันแบรนด์ให้ไปอยู่ตลาดบนมากขึ้น และเมื่อต้นปีนี้ เขาได้เปิดเผยกับนักลงทุนว่า ทิฟฟานีแอนด์โคได้พบความสำเร็จกับเพชรและอัญมณีเครื่องประดับอื่นๆที่มีราคาสูงขึ้น
รอยเตอร์ชี้ว่า นอกเหนือจากภาษีที่ถูกปรับขึ้นเนื่องมาจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่กระทบต่อการส่งออกของทิฟฟานีแอนด์โคไปยังจีนแล้ว ยังพบว่าการลดอัตราภาษีการขายภายในประเทศจีนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโวลูมการขายลดลงเป็นตัวเลข 2 หลักของทิฟฟานีแอนด์โคต่อนักท่องเที่ยวจีนในสหรัฐฯและในที่อื่นๆ
สินค้าฟุ่มเฟือยแบรนด์หรูนั้นพึ่งพาฮ่องกงมานานแล้วในฐานะเป็นศูนย์กลางแหล่ชอปปิ้งระดับไฮเอนด์สำหรับนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะ แต่การประท้วงฮ่องกงที่ลากยาวมาร่วมเกือบ 4 เดือนได้สร้างผลกระทบต่อสินค้าเหล่านี้
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้บริษัททิฟฟานีแอนด์โคได้เสนอไลน์สินค้าที่มีราคาต่ำลงที่คนธรรมดาสามารถจับต้องได้เป็นต้นว่า จี้ หรือ ต่างหู เพื่อดึงดูดคนยุคมิลเลเนียลที่มีความต้องการในสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าจากบริษัทคู่แข่งสัญชาติเดินมาร์ค แพนโดรา และซิกเนต จิวเวอเลอร์ส์ (Signet Jewelers)
ไฟแนนเชียลไทม์สกล่าวว่า ทิฟฟานีแอนด์โคถูกก่อตั้งเมื่อปี 1837 โดยชาร์ลส ลูวิส ทิฟฟานี( Charles Lewis Tiffany) และมีร้านเพชรสุดหรูเป็นที่ดึงดูดที่ถนนฟิฟท์ อเวนิว (5th Avenue)ในเมืองแมนแฮตตัน ในปีที่ผ่านมาบริษัททำยอดขายสุทธิได้ราว 4.4 พันล้านดอลลาร์ มีพนักงานทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 14,000 คน