น้ำมันขึ้น, ทองลง เฟซบุ๊กพังครืนฉุดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน

มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี (26 ก.ค.) จากคำแถลงของซาอุดีอาระเบียที่บอกว่าจะหยุดขนส่งน้ำมันผ่านเส้นทางน้ำในทะเลแดง อ้างเรือบรรทุกปิโตรเลียมของพวกเขาถูกกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านโจมตี ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ตามแรงฉุดของเฟซบุ๊ก ขณะที่ทองคำขยับลงพอสมควร

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 31 เซ็นต์ ปิดที่ 69.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 61 เซ็นต์ ปิดที่ 74.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ซาอุดีอาระเบียระงับการขนส่งน้ำมันทางเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบ ที่เชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน หลังบอกว่ากบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ 2 ลำของบริษัทซาอุดี เนชันแนล ชิปปิ้ง ในทะเลแดงเมื่อวันพุธ (25 ก.ค.)

“การตัดสินใจของซาอุดีอาระเบียที่ระงับการขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบ ย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์เผชิญหน้าที่ร้ายแรงกับอิหร่าน ในขณะที่สหรัฐฯเองก็เตรียมกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกรอบในวันที่ 6 สิงหาคม” เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าว

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(26ก.ค.) ปิดผสมผสาน โดยเอสแอนด์พีและแนสแดคถูกฉุดจากรายงานที่น่าผิดหวังของเฟซบุ๊ก แต่ดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงทางบวกด้านการค้าระหว่างอเมริกากับอียู

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 112.97 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,527.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.63 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,837.44 จุด แนสแดค ลดลง 80.05 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,852.19 จุด

เฟซบุ๊ก อิงค์ หุ้นใหญ่สุดอันดับ 5 ของโลกโดยมูลค่าตามราคาตลาด พังครืนลง 18.96 เปอร์เซ็ต์ นับเป็นการสูญเสียมูลค่าด้านการตลาดวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากรายงานผลประกอบการของบริษัทสื่อสารมวลชนแห่งนี้เผยให้เห็นว่ายอดการใช้งานชะลอตัวในตลาดโฆษณาใหญ่ที่สุด

ขณะเดียวกัน เดวิด เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการฝ่ายการเงินของเฟซบุ๊ก คาดการณ์แนวโน้มของธุรกิจของเฟซบุ๊กในช่วงครึ่งปีหลังที่ออกมาไม่ดีนัก และกล่าวว่า อัตราการขยายตัวของรายได้ทั้งหมดจะยังคงถดถอยลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และคาดว่า อัตราการขยายตัวของรายได้จะลดลงทั้งในไตรมาส 3 และ 4 นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังคาดการณ์ว่า ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 60% จากระดับปีที่แล้ว

ข่าวดังกล่าวต้านกระแสมุมมองในทางบวกของตลาด จากรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เห็นพ้องระงับรีดภาษีรถยนต์นำเข้า ในขณะที่ยุโรปและสหรัฐฯยังสามารถตกลงกันได้ด้วยว่าจะลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีด้วย

ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (26 ก.ค.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปรับลดพอสมควร หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,225.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์