รอยเตอร์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันอังคาร (17 ก.ค.) จับตาข้อมูลคลังปิโตรเลียมสหรัฐฯและการผลิตในเวเนซุเอลา ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำขยับลง หลังประธานเฟดให้มุมมองทางบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 66.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 72.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความยุ่งเหยิงทางอุปทานในเวเนซุเอลากลับมาอยู่ในความสนใจของตลาดอีกครั้ง หลังประเทศแห่งนี้จะต้องปิดทำการโรงกลั่น 2 จากทั้งหมด 4 แห่งเพื่อบำรุงรักษาตามกำหนดในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีกำลังผลิตรวมราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกเหนือจากกำลังผลิตที่ลดลงในเวเนซุเอลาแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (18 ก.ค.) ในขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์ คาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 กรกฎาคม น่าจะลดลงราว 3.5 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (17 ก.ค.) แกว่งตัวขึ้นไปปิดในแดนบวก แนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล หลังประธานเฟดประเมินเศรษฐกิจของอเมริกาในทางบวก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 55.53 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,119.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.12 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,809.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 49.40 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,855.12 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวสู่แดนลบในช่วงเปิดตลาด จากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเน็ตฟลิกซ์ที่ยังฉุดหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บอกว่าจากนั้นไม่นาน พวกนักลงทุนก็หันไปช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร ส่งให้ อัลฟาเบ็ต บริษัทแม่ของกูเกิล, เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟต์ ต่างปิดบวกอย่างน้อยๆ 1 เปอร์เซ็นต์
นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากความเห็นของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯที่เข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรส โดยบอกว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของอเมริกายังคงแข็งแกร่ง แม้ยอมรับเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อยาวนานจากความขัดแย้งทางการค้า
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (17 ก.ค.) ปิดลบ 3 วันติด จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลัง พาวเวลล์ ย้ำเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,227.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
