เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (3 ก.ค.) นักลงทุนกังวลปัญหาความยุ่งเหยิงทางอุปทานในลิเบียและแคนาดา ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบจากแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำพุ่งเกือบ 12 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 20 เซ็นต์ ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 46 เซ็นต์ ปิดที่ 77.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ท่าน้ำมันหลักๆ ของลิเบียถูกปิดตายสืบเนื่องจากการสู้รบ ส่งผลให้น้ำมันดิบขาดหายไปจากตลาดโลก 850,000 บาร์เรลต่อวัน
ในส่วนของน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้แรงหนุนโดยเฉพาะจากความคาดหมายต่อข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของประเทศและปัญหาความยุ่งเหยิงทางอุปทานในแคนาดา ชาติเพื่อนบ้าน
ด้านตลาดหุ้นอเมริกาในวันอังคาร (3 ก.ค.) ปิดลบตามแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยีและขนส่ง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนหน้าวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ
ดาวโจนส์ ลดลง 132.36 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,174.82 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.49 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,713.22 จุด แนสแดค ลดลง 65.01 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,502.67 จุด
ตลาดเปิดซื้อขายในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จากแรงหนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคปิโตรเลียม หลังราคาน้ำมันขยับขึ้น แต่หลังจากนั้นบรรยากาศในตลาดก็เปลี่ยนไป หลังจากน้ำมันขยับลงมา จนปิดบวกแค่ในกรอบแคบๆ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี คือแรงฉุดสำคัญของวอล์สตรีทในวันอังคาร หลังมีผลงานที่อ่อนแอ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีกำหนดปิดทำการในวันพุธ เนื่องในวันชาติอเมริกา 4 กรกฎาคม
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (3 ก.ค.) ฟื้นตัวแรง หลังจากดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.50 ดอลลาร์ต่ออออนซ์