มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดิ่งแรงในวันพุธ (11 ก.ค.) จากความกังวลทางอุปทาน ปัจจัยทางพลังงานและข้อพิพาททางการค้าที่สาหัสขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนฉุดวอลล์สตรีทร่วงหนัก ขณะที่ทองคำก็ปิดลบเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 3.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 5.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน
“นักลงทุนในตลาดเทขายทำกำไรหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการหวนคืนมาของน้ำมันดิบลิเบีย รวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะละเว้นคว่ำบาตรภาคพลังงานอิหร่าน เช่นเดียวกับความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า” ฟิล ฟลีนน์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ระบุ
การดิ่งลงของราคาน้ำมันมีขึ้นแม้ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ (11 ก.ค.) พบว่าอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงถึง 12.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กรกฎาคม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (11 ก.ค.) ดิ่งแรง ปิดลบครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังวอชิงตันขู่เล่นงานทางภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ กระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทยังถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดาวโจนส์ ลดลง 219.21 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,700.45 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.82 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,774.02 จุด แนสแดค ลดลง 42.59 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,716.61 จุด
สงครามการค้าขยายตัวเร็วกว่าที่คิด จีนกล่าวหาอเมริกาพยายามใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงรังแก เตือนตอบโต้แน่หลังจากทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีศุลกากรเก็บจากสินค้าเมดอินไชน่าล็อตใหม่มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่เพิ่งบังคับใช้แผนการรีดภาษีกับสินค้าจีนสดๆ ร้อนๆ 34,000 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วถูกปักกิ่งสวนกลับทันควันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
นอกจากนี้แล้ว ตลาดยังถูกกดดันจากหุ้นภาคปิโตรเลียม โดยหุ้นพลังงานเอสแอนด์พี 500 ปิดลบ 2.2% หลังราคาน้ำมันร่วงลงหนัก
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (11 ก.ค.) ร่วงแรง ถูกฉุดโดยความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 11 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,244.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์