น้ำมันขึ้น-ทองบวก หุ้นสหรัฐฯ พุ่งหลังยุโรปอ่อนข้อให้ “ทรัมป์” เลี่ยงสงครามการค้า

รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ (25 ก.ค.) หลังพบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดหมาย ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกท่ามกลางข่าวอียูยอมอ่อนข้อให้ “ทรัมป์” เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า ขณะที่ทองคำปรับขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 78 เซ็นต์ ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 49 เซ็นต์ ปิดที่ 73.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (25 ก.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 กรกฎาคม ลดลง 6.1 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ผลสำรวจความเห็นของเหล่านักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล คาดหมายว่าจะลดลงราว 2.9 ล้านบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (25 ก.ค.) ปิดบวก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับยุโรป ระหว่างที่พบปะกับ ฌอง-โคล้ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 172.16 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,414.10 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.67 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,846.07 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 91.47 จุด (1.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,932.24 จุด

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอียูที่อยู่ภายในห้องประชุมระหว่าง ทรัมป์ กับ จุงเกอร์ ระบุว่าสหภาพยุโรปยอมอ่อนข้อให้ทรัมป์เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า

ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวเผยว่า จุงเกอร์ เสนอนำเข้าถั่วเหลืองและก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับบอมลดภาษีสินค้าน้ำเข้าจากอเมริกาบางอย่าง นอกจากนี้แล้วยังเผยว่าทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องเกี่ยวกับภาษีนำเข้ารถยนต์

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ขู่รีดภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% โดยอ้างประเด็นด้านความมั่นคง ความเคลื่อนไหวที่จะส่งผลกระทบกับเหล่าผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปอย่างบีเอ็มดับเบิลยูและโฟล์คสวาเกนอย่างหนัก เช่นเดียวกับเหล่าบริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ด้านราคาทองคำในวันพุธ (25 ก.ค.) ปรับขึ้นพอสมควร หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์