ผู้นำอิหร่านเตือนทรัมป์ ถ้าเปิดศึกกับเตหะรานก็จะเผชิญกับ “มารดาของสงครามทั้งหลาย”

รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน กล่าวเตือนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (22 ก.ค.) ว่า อย่าได้เดินหน้านโยบายเป็นศัตรูกับเตะหราน ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าเหมือน “เล่นแหย่หางสิงโต” พร้อมกับบอกด้วยว่า “อเมริกาควรจะรู้ว่า ... สงครามกับอิหร่านคือมารดาของสงครามทั้งหลาย”

อิหร่านกำลังเผชิญกับแรงบีบคั้นจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มาตรการแซงก์ชันเพิ่มเติมจากวอชิงตันก็กำลังใกล้มีผลบังคับใช้ หลังจากที่ทรัมป์ตัดสินใจนำสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนานาชาติปี 2015 ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมของพวกนักการทูตชาวอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ รูฮานี บอกว่า “มิสเตอร์ทรัมป์ อย่าเล่นแหย่หางสิงโต นี่มีแต่จะนำไปสู่ความเสียอกเสียใจ” สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงาน

“อเมริกาควรจะรู้ว่าสันติภาพกับอิหร่านคือมารดาแห่งสันติภาพทั้งหลาย และสงครามกับอิหร่านคือมารดาแห่งสงครามทั้งหลาย” รูฮานีกล่าว ซึ่งดูเหมือนยังคงเปิดประตูสำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีสันติภาพระหว่างประเทศทั้งสองซึ่งได้เป็นศัตรูกันมานับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อปี 1979

รูฮานี พูดด้วยว่า “คุณประกาศทำสงคราม แล้วจากนั้นคุณก็พูดว่าต้องการสนับสนุนประชาชนชาวอิหร่าน

“คุณไม่สามารถที่จะยั่วยุประชาชนอิหร่านให้ต่อต้านความมั่นคงปลอดภัยของพวกเขาเองและผลประโยชน์ของพวกเขาเองได้หรอก” เขาพูดในการปราศรัยซึ่งมีการถ่ายทอดโทรทัศน์ ซึ่งดูเหมือนเป็นการอ้างอิงถึงรายงานข่าวเกี่ยวกับความพยายามของวอชิงตันที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลอิสลามอิหร่าน

ในกรุงวอชิงตัน พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายราย ซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า คณะบริหารทรัมป์เพิ่งเปิดการรุกที่ประกอบด้วยการออกมาแถลงกล่าวปราศรัย และการสื่อสารทางออนไลน์ต่างๆ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบและช่วยบีบคั้นอิหร่านให้ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์ของตนตลอดจนให้ยอมยุติความสนับสนุนที่ให้แก่กลุ่มหัวรุนแรงในประเทศต่างๆ

พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทั้งในปัจจุบันและในอดีตเหล่านี้บอกว่า การรณรงค์ครั้งนี้มุ่งทำให้ภาพลักษณ์ของพวกผู้นำอิหร่านดูเลวร้าย ขณะเดียวกัน ก็มีการใช้ข้อมูลข่าวสารที่เกินจริงหรือขัดแย้งกับประกาศคำแถลงของพวกเจ้าหน้าที่ รวมทั้งคำวิจารณ์ของพวกรัฐบาลก่อนๆ ด้วย

ระหว่างการปราศรัยครั้งนี้ รูฮานียังได้เย้ยเย้นเรื่องที่ทรัมป์ข่มขู่จะหยุดยั้งการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน และบอกว่าอิหร่านนั้นมีที่ตั้งซึ่งเป็นฝ่ายครอบงำเหนืออ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นทางน้ำสำคัญในการขนส่งน้ำมัน

“ใครก็ตามที่เข้าอกเข้าใจเรื่องพื้นฐานต่างๆ ของการเมือง จะไม่พูดออกมาหรอกว่า ‘เราจะหยุดยั้งการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน’ ... เราต่างหากที่เป็นผู้รับประกันความมั่นคงปลอดภัยของทางน้ำในภูมิภาคนี้มาตลอดประวัติศาสตร์” รูฮานีกล่าว และย้ำคำเตือนที่เขาเคยบอกว่า อิหร่านสามารถที่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (21) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก็ได้ออกมาหนุนหลังเรื่องรูฮานีบ่งบอกว่าอิหร่านอาจจะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย หากการส่งออกของอิหร่านเองถูกขัดขวาง

ท่าทีที่เหมือนเป็นการข่มขู่ของรูฮานีซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ ที่ว่าจะก่อกวนการส่งออกน้ำมันของพวกประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซีย บังเกิดขึ้นในลักษณะเป็นปฏิกิริยาต่อความพยายามของวอชิงตันที่จะบังคับทุกๆ ประเทศให้ยุติการซื้อน้ำมันอิหร่าน

ในอดีตพวกเจ้าหน้าที่อิหร่านก็เคยข่มขู่ที่จะสกัดปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อเป็นการตอบโต้ถ้าสหรัฐฯมีการปฏิบัติการใดๆ ในทางเป็นศัตรู

เมื่อวันอาทิตย์ (22) พล.อ.คิอูมาร์ส เฮย์ดารี ผู้บัญชาการทหารบกของอิหร่าน กลายเป็นบุคลากรทางทหารคนล่าสุดที่ออกมาสนับสนุนคำพูดที่เหมือนเป็นคำขู่ของรูฮานี โดยสำนักข่าวทัสนิม ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการ ได้อ้างคำพูดของเฮย์ดารีที่บอกว่า “พื้นที่ช่องแคบฮอร์มุซต้องมีความปลอดภัยสำหรับทุกๆ คน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีความมั่นคงสำหรับทุกๆ คน”

ขณะที่ พล.อ.โมฮัมหมัด บาเกรี เสนาธิการทหาร เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งออกมาเตือนว่ารัฐบาลทรัมป์อาจกำลังเตรียมการเพื่อรุกรานอิหร่าน

“พฤติการณ์ของศัตรูนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดทายได้” ทัสนิม อ้างคำพูดของบาเกรี ซึ่งกล่าวต่อไปด้วยว่า “ถึงแม้รัฐบาลอเมริกันปัจจุบันดูเหมือนไม่ได้พูดถึงการคุกคามทางทหาร แต่ตามข้อมูลข่าวสารที่มีความแม่นยำ เขากำลังพยายามชักชวนโน้มน้าวให้ฝ่ายทหารสหรัฐฯเปิดการรุกรานทางทหาร (ต่ออิหร่าน)”

คาดกันว่าการส่งออกน้ำมันของอิหร่านอาจจะตกลงไปถึงสองในสามเมื่อถึงช่วงสิ้นปีนี้ได้ทีเดียว เนื่องจากมาตรการแซงก์ชันใหม่ๆ ของสหรัฐฯ

วอชิงตันในตอนต้นถึงขั้นวางแผนปิดตายอย่างสมบูรณ์ ไม่ให้อิหร่านเข้าสู่ตลาดน้ำมันทั่วโลกได้ หลังจากที่ทรัมป์ได้นำสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงอิหร่าน โดยเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ต้องยุติการซื้อน้ำมันจากอิหร่านภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกลงโทษฐานละเมิดมาตรการแซงชันของอเมริกา

แต่ถึงตอนนี้ดูเหมือนสหรัฐฯได้ผ่อนปรนจุดยืนของตนลงบ้าง โดยกล่าวว่าจะยินยอมยกเว้นการแซงก์ชันให้แก่พวกชาติพันธมิตรบางรายซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยน้ำมันจากอิหร่าน