ผบ.หน่วยรบพิเศษอิหร่านจวก ‘ทรัมป์’ ใช้ภาษาต่ำ-ชี้อยากขู่ให้มาคุยกับตน

รอยเตอร์ - ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษอิหร่านฝากบอกประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถ้าอยากข่มขู่ให้มาคุยกับตน โอ่หากสหรัฐฯ เริ่มสงครามก็จะช่วยจบให้ พร้อมเย้ยเป็นถึงผู้นำอเมริกาแต่ใช้วาจาสุดกากเหมือนภาษาตาม ‘ไนต์คลับหรือบ่อนการพนัน’

ถ้อยแถลงจาก พล.ต.กอสเซ็ม สุไลมานี หัวหน้าหน่วยรบพิเศษกุดส์ (Quds) ซึ่งอยู่ในสังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) ถือเป็นสงครามน้ำลายระลอกล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน

“ในฐานะทหาร ผมมีหน้าที่ต้องตอบสนองคำขู่ของคุณ ถ้าคุณอยากใช้ภาษาข่มขู่ก็ให้มาคุยกับผมนี่ อย่าไปคุยกับท่านประธานาธิบดี (ฮัสซัน รูฮานี) อย่าให้ท่านต้องลดศักดิ์ศรีมาพูดกับคุณ” สำนักข่าวตัสนีมซึ่งเป็นสื่อกึ่งทางการของอิหร่านอ้างคำพูด สุไลมานี

“เราอยู่ใกล้จนคุณคาดไม่ถึงเชียวล่ะ มาสิ... เราพร้อมแล้ว ถ้าคุณเริ่มสงคราม เราก็จะเป็นฝ่ายจบมันเอง... คุณก็รู้ว่าสงครามครั้งนี้จะทำลายทุกอย่างที่คุณมีอยู่”

ยูวัล สไตนิตซ์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิสราเอล ออกมาเยาะเย้ยคำขู่ของ สุไลมานี ว่าเป็นแค่ลมปาก เพราะอิหร่านเองก็ทราบดีว่ากองทัพสหรัฐฯ “มีแสนยานุภาพเกรียงไกรขนาดไหน”

เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (22) ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความถึง รูฮานี โดยตรงว่า “จงอย่าได้คิดข่มขู่สหรัฐอเมริกาอีก ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องเจอผลลัพธ์ที่น้อยชาติจะเคยโดนมาในประวัติศาสตร์ เราจะไม่อดทนกับคำพูดรุนแรงและการขู่ฆ่าที่เสียสติของคุณอีกต่อไป จงระวังไว้!”

ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำอิหร่านได้กล่าวสุนทรพจน์เตือนว่า นโยบายก้าวร้าวที่วอชิงตันมีต่อเตหะรานจะนำไปสู่ “แม่ของสงครามทั้งปวง”

สุไลมานี ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมภารกิจของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านในต่างแดน กล่าวต่อไปอีกว่า “คุณขู่เราว่าจะต้องสูญเสียชนิดที่น้อยประเทศเคยโดนมา ทรัมป์เอ๋ย... นี่มันภาษาตามไนต์คลับหรือไม่ก็บ่อนการพนันชัดๆ”

ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านหลายคนเคยขู่จะทำลายฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางให้ราบเป็นหน้ากลอง “ภายในไม่กี่นาที” รวมถึงโจมตีอิสราเอลซึ่งอิหร่านไม่เคยยอมรับในอธิปไตย

โฮแกน กิดลีย์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาแถลงวานนี้ (26) ว่า รัฐบาล ทรัมป์ ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนและพันธมิตรหลายประเทศเพื่อบังคับให้อิหร่านเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และยุติกิจกรรมที่พวกเขาทำอยู่ทั่วภูมิภาค แต่ปฏิเสธที่จะฟันธงว่าการทำสงครามเป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วยหรือไม่

หลังจากที่ ทรัมป์ ประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อเดือน พ.ค. คณะผู้นำเตหะรานก็เริ่มถูกวอชิงตันบีบคั้นหนักขึ้น และมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ด้วย

สหรัฐฯ นั้นต้องการบีบให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ และเลิกให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธหลายฝ่ายในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการทำสงครามตัวแทนอยู่ในเยเมนและซีเรีย

แม้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ปัญหาค่าเงินอ่อน และการทุจริตคอร์รัปชันจะบั่นทอนความเชื่อถือศรัทธาในคณะผู้ปกครองทางศาสนาของอิหร่าน แต่นักวิเคราะห์และคนวงในเชื่อว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวทางการเมืองยังไม่มี

“มันก็แค่สงครามปาก ไม่มีฝ่ายไหนอยากให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร แต่แน่นอนหากอเมริกาโจมตีอิหร่าน เราก็พร้อมที่จะตอบโต้จนสุดกำลัง” เจ้าหน้าที่อาวุโสอิหร่านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (24) ว่า การเจรจากับอิหร่านยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

“เราพร้อมจะทำข้อตกลงที่แท้จริง” ทรัมป์ กล่าว ก่อนที่รัฐบาลอิหร่านจะออกมาปฏิเสธไร้เยื่อใย

สหรัฐฯ เรียกร้องให้ทุกประเทศหยุดซื้อน้ำมันจากอิหร่านภายในเดือน พ.ย. ขณะที่เตหะรานขู่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียทั้งหมด หากว่าน้ำมันของตนขายไม่ได้