รอยเตอร์ - วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในวันพฤหัสบดี (19 ก.ค.) กล่าวหากองกำลังในสหรัฐฯ พยายามบ่อนทำลายความสำเร็จของการประชุมซัมมิตครั้งแรกระหว่างเขากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่บอกว่าไม่ว่ายังไงก็ตามทั้งสองผู้นำก็ได้เริ่มปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโกไปแล้ว
ปูตินและทรัมป์นั่งประชุมซัมมิตกันเป็นครั้งแรกในเฮลซิงกิเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ค.) การประชุมที่โหมกระพือพายุแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ หลังจาก ทรัมป์ ปฏิเสธกล่าวโทษผู้นำรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งอเมริกา 2016 ที่ทาง ปูติน ยืนกรานปฏิเสธมาตลอด
ต่อมา ทรัมป์ อ้างว่าเขาพูดผิดและกล่าวหาบางคนคงรับไม่ได้กับข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเข้ากันได้ดีกับปูติน ส่วนทำเนียบขาวก็พยายามควบคุมเสียงโวยวายและความสับสนทางการเมืองซึ่งปะทุขึ้นจากการประชุมซัมมิตดังกล่าว
ในวันพฤหัสบดี (19 ก.ค.) ปูติน พูดกับเหล่านักการทูตของรัสเซียจากทั่วโลกที่มาประชุมกันในมอสโก ย้ำว่าการประชุมที่เฮลซิงกิประสบความสำเร็จ “มันประสบความสำเร็จในภาพรวมและนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์บางอย่าง แน่นอนต้องคอยดูว่ามันจะพัฒนาอย่างไรต่อไป” เขากล่าวโดยปราศจากการเปิดเผยถึงลักษณะของข้อตกลงที่เขาอ้างถึง
อย่างไรก็ตาม ปูตินกล่าวว่ากองกำลังทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ กำลังพยายามบ่อนทำลายความสำเร็จของการประชุม “ที่เราเห็นคือมีกองกำลังในสหรัฐฯ เตรียมนำความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ มาสังเวยความทะเยอทะยานของพวกเขา ในการต่อสู้ทางการเมืองภายในของสหรัฐฯ”
“คนเหล่านี้เป็นกองกำลังเดียวกับกลุ่มคนที่พร้อมสังเวยงานหลายพันตำแหน่ง ความเจ็บปวดของภาคธุรกิจและความมั่นคง วางเดิมพันในการต่อสู้ทางการเมืองอันแตกแยกของพวกเขา” ปูตินระบุ
ปูตินไม่ได้เอ่ยชื่อคนเหล่านั้น แต่พูดถึงเหล่านักการเมืองสหรัฐฯ ที่วางผลประโยชน์ของพรรคการเมืองอยู่เหนือผลประโยชน์ของอเมริกา และบอกว่าคนกลุ่มนี้มีอิทธิพลมากพอที่สามารถหลอกขายเรื่องราว “น่าสงสัย” ของพวกเขาแก่อเมริกันชนหลายล้านคน
ผู้นำรัสเซียบอกว่าเขามีความคาดหวังว่าการประชุมซัมมิตเฮลซิงกิจะสามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆที่สะสมมานานหลายปีภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง “แม้มีความเห็นที่ต่างกันในหลายเรื่อง(กับทรัมป์) แต่เราเห็นพ้องกันความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ อยู่ในฐานะที่ไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง ในหลายแง่มุม มันดูแย่กว่าช่วงระหว่างสงครามเย็นเสียอีก”
อย่างไรก็ตาม ปูตินระบุว่าอย่างน้อยๆ ความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว “เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงในทางบวกได้เริ่มขึ้นแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่ท้ายที่สุดแล้วการประชุมแบบเต็มรูปแบบจะต้องมีขึ้นเพื่อให้เราพูดคุยกันโดยตรง”