เอเอฟพี - บริษัท เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตส์ เจ้าของโรงแรมมัณฑะเลย์เบย์ในนครลาสเวกัส ได้ยื่นฟ้องเหยื่อและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อปฏิเสธการรับผิดกรณีที่คนร้ายใช้ห้องชั้นบนของโรงแรมสาดกระสุนคร่าชีวิตผู้ชมคอนเสิร์ตไป 58 ศพ
เอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐเนวาดาและศาลรัฐบาลกลางในนครลอสแองเจลิสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13) ไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ต้องการบังคับให้โจทก์กว่า 2,000 คนยอมถอนฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตส์ ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ปีที่แล้ว สตีเฟน แพ็ดด็อก วัย 64 ปี ซึ่งเป็นชาวอเมริกันผิวขาว ได้ใช้ปืนไรเฟิลสาดกระสุนจากห้องพักบนชั้น 32 ของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ลงมายังฝูงชนที่กำลังชมคอนเสิร์ตกลางแจ้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 58 ราย บาดเจ็บอีก 851 คน
เขาตัดสินใจยิงตัวตายขณะที่ตำรวจจู่โจมเข้าไปในห้อง
เอกสารประกอบการยื่นฟ้องของเอ็มจีเอ็ม ระบุว่า ผู้เสียหายราว 2,500 คนซึ่งมีทั้งเหยื่อที่รอดชีวิตและญาติของผู้ตายได้ยื่นฟ้องหรือขู่ว่าจะเอาผิดกับเอ็มจีเอ็ม ข้อหาละเลย ซึ่งบริษัทต้องการให้คนเหล่านี้ถอนฟ้อง และคดีนี้ควรถูกไต่สวนภายใต้กฎหมาย Safety Act ที่ประกาศใช้หลังเหตุวินาศกรรม 9/11
เอ็มจีเอ็มให้เหตุผลว่า บริษัทรักษาความปลอดภัย CSC ที่ถูกจ้างมาดูแลงานคอนเสิร์ตผ่านการรับรองจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแล้ว จึงถือว่าพ้นจากความรับผิด ส่วนเอ็มจีเอ็ม และผู้จัดคอนเสิร์ตก็ได้มอบหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้แก่ CSC จึงไม่มีส่วนต้องรับผิดเช่นกัน
องค์กรช่วยเหลือเหยื่อกราดยิง Route 91 Strong ออกมาประณามเอ็มจีเอ็มว่า “ซ้ำเติมความสูญเสีย” ให้แก่เหยื่อ ซึ่งหลายคนต้องเผชิญภาวะเครียดจัดเนื่องจากจิตใจถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง (post-traumatic stress disorder) บางรายถึงขั้นต้องออกจากงาน และถูกเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย
โรเบิร์ต เอ็กเล็ต ทนายของเหยื่อคนหนึ่ง ระบุว่า “นี่คือการกระทำของจำเลยที่น่าตำหนิที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ ตลอด 30 กว่าปีที่ว่าความ”
เขาชี้ว่า กฎหมาย Safety Act ซึ่งช่วยให้ CSC พ้นจากความรับผิดนั้นไม่ได้คุ้มครองมาถึงโรงแรม และอันที่จริง CSC ก็ไม่ได้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยใดๆ เลยในคืนเกิดเหตุ หรือแม้กระทั่งหลายวันก่อนหน้านั้น
