มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (12 ก.ค.) สัญญาสหรัฐฯ ขยับลงเล็กน้อย แต่ลอนดอนพุ่งจากแรงช้อนซื้อหนึ่งวันหลังร่วงลงหนัก ส่วนวอลล์สตรีทดีดตัวจากความคาดหวังต่อฤดูกาลเผยแพร่ผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทต่างๆ ขณะที่ทองคำฟื้นตัวเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 5 เซ็นต์ ปิดที่ 70.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานประจำเดือนของทบวงพลังงานสากล (ไออีเอ) บ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบกำลังลดลงและเผยให้เห็นถึงแนวโน้มการดีดตัวของอุปทานโลก ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาไปที่การหวนคืนตลาดของน้ำมันลิเบีย รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมันจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (12 ก.ค.) อยู่ในโหมดของการกลับมาช้อนซื้อ ผลักแนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางความหวังสูงลิ่วต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่มีกำหนดเผยแพร่เร็วๆ นี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 224.44 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,924.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.27 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,798.29 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 107.31 จุด (1.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,823.92 จุด
หุ้นของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ในนั้นรวมถึงแอปเปิล, แอมะซอน และไมโครซอฟท์ ต่างปิดบวกมากกว่า 1.5% เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่ทางอุตสาหกรรมอย่างโบอิ้ง และแคตเทอร์พิลลาร์
ก่อนหน้านี้วอลล์สตรีทขยับขึ้นมา 4 วันติด จนกระทั่งมาตรการรีดภาษีระลอกใหม่ของสหรัฐฯ ฉุดตลาดหุ้นในวันพุธ (11 ก.ค.) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ยี่หระต่อความกังวลดังกล่าวในวันพฤหัสบดี (12 ก.ค.)
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (12 ก.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับสงครามการค้าโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,246.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์