เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (10 ก.ค.) ปัญหาคนงานผละงานประท้วงในนอร์เวย์ และกาบอง ซ้ำเติมความยุ่งเหยิงทางอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงท่ามกลางความคาดหมายทางบวกต่อรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ ขณะที่ทองคำปิดลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 79 เซ็นต์ ปิดที่ 78.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เหตุผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันในนอร์เวย์ ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลง 23,000 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติเหลวลดลง 3,500 บาร์เรลต่อวัน ส่วนเหตุประท้วงในกาบอง คาดหมายว่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังผลิต 54,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งซ้ำเติมความยุ่งเหยิงทางอุปทานที่มีอยู่ก่อนแล้วในลิเบียและแคนาดา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (10 ก.ค.) ปิดบวก 4 วันติด ท่ามกลางความคาดหมายว่ารายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆในไตรมาส 2 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่เร็วๆ นี้จะออกมาแข็งแกร่ง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 143.07 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,919.66 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.67 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,793.84 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.00 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,759.20 จุด
ประมาณการกันว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทต่างๆ จะมีรายได้เพิ่มเติม 20% หรือมากกว่านั้นหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และประโยชน์จากมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว
การคาดหมายดังกล่าวช่วยดึงความสนใจของนักลงทุนให้มองข้ามความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงสหรัฐฯ กับพันธมิตรการค้าอื่นๆ
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (10 ก.ค.) ปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,255.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์