มาร์เกตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ พบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นผิดคาด ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง หลังอเมริกาและยุโรปส่อบรรลุข้อตกลงถอนมาตการรีดภาษียานยนต์ ขณะที่ทองคำปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 85 เซ็นต์ ปิดที่ 77.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกลับผลสำรวจความคิดเห็นเหล่านักวิคราะห์ที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบัล แพตต์ส ซึ่งประมาณการว่าจะลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) ปิดบวกแรง ท่ามกลางรายงานข่าวว่าอเมริกาและสหภาพยุโรปอาจเห็นพ้องถอนมาตรการรีดภาษีรถยนต์ ซึ่งก่อมุมมองทางบวกในหมู่นักลงทุนต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 181.92 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,356.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.39 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,736.61 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 83.75 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,586.43 จุด
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี บอกว่าเธอจะลดอัตราภาษีศุลกากรอียูที่เรียกเก็บกับรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯในขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอตร์ว่า ริชาร์ด เกรเนลล์ ทูตสหรัฐฯ ประจำเยอรมนี พูดกับเหล่าผู้บริหารอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจละทิ้งคำขู่รีดภาษีรถยนต์นำเข้าจากยุโรป หากอียูยกเลิกมาตรการรีดภาษีรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯเช่นกัน
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) ขยับขึ้นพอสมควร ได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.80 ดอลลาร์ต่ออออนซ์